XM บัญชี Ultra Low vs Standard แบบไหนดี เหมาะกับใคร

เมื่อต้องการเปิดบัญชีเทรด Forex กับโบรกเกอร์ XM หลายคนมักสงสัยว่าควรเลือกบัญชีประเภทไหนระหว่าง Ultra Low กับ Standard เพราะทั้งสองประเภทมีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน วันนี้เราจะมาวิเคราะห์เจาะลึกรายละเอียดของทั้งสองบัญชี เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกบัญชีที่เหมาะสมที่สุดกับสไตล์การเทรดของคุณ

เปรียบเทียบคุณสมบัติพื้นฐาน Ultra Low vs Standard

บัญชี Ultra Low

• ค่าสเปรดเริ่มต้น: 0.6 pips
• ไม่มีค่าคอมมิชชัน
• ไม่มีค่าสวอป
• เงินฝากขั้นต่ำ: $5
• ไม่มีโบนัสเงินฝาก
• เลเวอเรจสูงสุด 1:1000
• รองรับ 7 สกุลเงินหลัก (EUR, USD, GBP, AUD, ZAR, SGD, THB)
• มี 2 ประเภทย่อย: Standard Ultra (100,000 หน่วย/ล็อต) และ Micro Ultra (1,000 หน่วย/ล็อต)

บัญชี Standard

• ค่าสเปรดเริ่มต้น: 1.0 pips
• ไม่มีค่าคอมมิชชัน
• มีค่าสวอป
• เงินฝากขั้นต่ำ: $5
• มีโบนัสเงินฝาก 100% สำหรับการฝากครั้งแรก
• เลเวอเรจสูงสุด 1:1000
• รองรับ 11 สกุลเงิน (USD, EUR, GBP, JPY, CHF, AUD, HUF, PLN, SGD, ZAR, THB)
• ขนาดสัญญามาตรฐาน 100,000 หน่วย/ล็อต

ตารางเปรียบเทียบ Ultra Low vs Standard

คุณสมบัติ	Ultra Low	Standard
ค่าสเปรดเริ่มต้น	0.6 pips	1.0 pips
ค่าคอมมิชชัน	ไม่มี	ไม่มี
ค่าสวอป	ไม่มี	มี
เงินฝากขั้นต่ำ	$5	$5
โบนัสเงินฝาก	ไม่มี	มี (100% แรกเข้า, 20% ฝากเพิ่ม)
เลเวอเรจสูงสุด	1:1000	1:1000
สกุลเงินที่รองรับ	7 สกุลเงิน	11 สกุลเงิน
ขนาดสัญญา	Standard Ultra: 100,000 หน่วย/ล็อต<br>Micro Ultra: 1,000 หน่วย/ล็อต	100,000 หน่วย/ล็อต
ล็อตขั้นต่ำ	Standard Ultra: 0.01<br>Micro Ultra: 0.1	0.01
ล็อตสูงสุดต่อออเดอร์	50 ล็อต	50 ล็อต
Stop Out Level	20%	20%
แพลตฟอร์ม	MT4/MT5, Web Trader, Mobile	MT4/MT5, Web Trader, Mobile

สกุลเงินที่รองรับ	Ultra Low	Standard
สกุลเงินหลัก	EUR, USD, GBP, AUD	USD, EUR, GBP, JPY, CHF, AUD
สกุลเงินเพิ่มเติม	ZAR, SGD, THB	HUF, PLN, SGD, ZAR, THB

ค่าสเปรดเฉลี่ย (pips)	Ultra Low	Standard
EURUSD	0.8	1.6
USDJPY	0.9	2.0
GBPUSD	1.0	1.8
AUDUSD	1.1	2.1
GOLD	1.6	2.7

จุดเด่นของบัญชี Ultra Low

1. ต้นทุนการเทรดต่ำที่สุด

บัญชี Ultra Low มีจุดเด่นสำคัญคือค่าสเปรดที่ต่ำมากเพียง 0.6 pips สำหรับคู่เงินหลัก ซึ่งต่ำกว่าบัญชี Standard ที่เริ่มต้นที่ 1.0 pips ทำให้ประหยัดต้นทุนในการเทรดได้มาก โดยเฉพาะสำหรับเทรดเดอร์ที่เน้นการเทรดระยะสั้นหรือ Scalping ที่ต้องการเปิดปิดออเดอร์บ่อยครั้ง

2. ไม่มีค่าสวอป

อีกหนึ่งข้อได้เปรียบคือการไม่มีค่าสวอปสำหรับการถือครองข้ามคืน ทำให้เหมาะกับการเทรดระยะยาวหรือการใช้กลยุทธ์ Carry Trade ที่ต้องถือครองตำแหน่งนานๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้น

3. มีความยืดหยุ่นในการเลือกขนาดสัญญา

บัญชี Ultra Low มีให้เลือก 2 แบบคือ Standard Ultra และ Micro Ultra ทำให้สามารถปรับขนาดการเทรดได้ตามความต้องการและเงินทุน เหมาะกับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นด้วยขนาดเล็ก และมืออาชีพที่ต้องการเทรดขนาดใหญ่

ข้อจำกัดของบัญชี Ultra Low

1. ไม่มีโบนัสเงินฝาก

บัญชี Ultra Low ไม่มีสิทธิ์รับโบนัสเงินฝากใดๆ ต่างจากบัญชี Standard ที่มีโบนัส 100% สำหรับการฝากครั้งแรก และ 20% สำหรับการฝากครั้งต่อไป ทำให้เสียโอกาสในการเพิ่มเงินทุนจากโบนัส

2. รองรับสกุลเงินน้อยกว่า

รองรับเพียง 7 สกุลเงินหลัก ในขณะที่บัญชี Standard รองรับถึง 11 สกุลเงิน ทำให้มีตัวเลือกในการเทรดน้อยกว่า อาจไม่เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ต้องการความหลากหลายในการเทรดคู่เงินรอง

จุดเด่นของบัญชี Standard

1. มีโบนัสเงินฝาก

จุดเด่นหลักของบัญชี Standard คือการมีโบนัสเงินฝาก 100% สำหรับการฝากครั้งแรก และ 20% สำหรับการฝากครั้งต่อไป ทำให้มีเงินทุนในการเทรดเพิ่มขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีเงินทุนจำกัดแต่ต้องการเพิ่มขนาดการเทรด

2. รองรับสกุลเงินหลากหลาย

รองรับการเทรดถึง 11 สกุลเงิน ทำให้มีโอกาสในการทำกำไรจากคู่เงินที่หลากหลายมากกว่า เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ชอบกระจายความเสี่ยงไปในหลายคู่เงิน

3. เข้าถึงง่ายสำหรับมือใหม่

ด้วยค่าสเปรดที่มาตรฐานและการมีโบนัสเงินฝาก ทำให้บัญชี Standard เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้น ที่ต้องการเรียนรู้การเทรดในสภาพแวดล้อมจริงโดยมีความเสี่ยงที่จำกัด

ข้อจำกัดของบัญชี Standard

1. ค่าสเปรดสูงกว่า

ค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 1.0 pips สูงกว่าบัญชี Ultra Low ที่ 0.6 pips ทำให้มีต้นทุนในการเทรดที่สูงกว่า โดยเฉพาะสำหรับการเทรดระยะสั้นที่ต้องเปิดปิดออเดอร์บ่อย

2. มีค่าสวอป

การมีค่าสวอปสำหรับการถือครองข้ามคืน อาจเป็นข้อเสียสำหรับผู้ที่ต้องการถือครองตำแหน่งเป็นเวลานาน เพราะจะมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทุกคืน

บัญชีไหนเหมาะกับใคร?

บัญชี Ultra Low เหมาะกับ:

1. เทรดเดอร์ระยะสั้น (Day Trader/Scalper)

• ต้องการค่าสเปรดต่ำเพื่อลดต้นทุนการเทรด
• เน้นการเปิดปิดออเดอร์จำนวนมากในแต่ละวัน
• ไม่ต้องการรับโบนัสเงินฝาก

2. เทรดเดอร์ระยะยาว

• ต้องการถือครองตำแหน่งข้ามคืนโดยไม่มีค่าสวอป
• เน้นการทำกำไรจากแนวโน้มระยะยาว
• มีเงินทุนเพียงพอโดยไม่ต้องพึ่งโบนัส

3. เทรดเดอร์มืออาชีพ

• มีประสบการณ์และต้องการต้นทุนการเทรดที่ต่ำที่สุด
• เข้าใจการบริหารความเสี่ยงและไม่จำเป็นต้องใช้โบนัส
• ต้องการความยืดหยุ่นในการเลือกขนาดการเทรด

บัญชี Standard เหมาะกับ:

1. เทรดเดอร์มือใหม่

• ต้องการโบนัสเงินฝากเพื่อเพิ่มเงินทุน
• ยังไม่ต้องการเทรดในปริมาณมาก
• ต้องการเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงจำกัด

2. เทรดเดอร์ระยะกลาง

• ต้องการความหลากหลายของคู่เงิน
• สามารถยอมรับค่าสเปรดที่สูงกว่าได้
• ต้องการใช้ประโยชน์จากโบนัสเงินฝาก

3. นักลงทุนที่มีเงินทุนจำกัด

• ต้องการใช้โบนัสเพื่อเพิ่มขนาดการเทรด
• ยอมรับต้นทุนที่สูงกว่าเพื่อแลกกับโบนัส
• เน้นการเทรดแบบพื้นฐานไม่ซับซ้อน

บทสรุป

การเลือกระหว่างบัญชี Ultra Low และ Standard ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ โดยเฉพาะสไตล์การเทรด เงินทุน และประสบการณ์ของคุณ

บัญชี Ultra Low เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการต้นทุนการเทรดที่ต่ำที่สุด ไม่สนใจโบนัส และมีประสบการณ์การเทรดพอสมควร ในขณะที่บัญชี Standard เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากโบนัสเงินฝากและความหลากหลายของคู่เงิน

สุดท้ายแล้ว การตัดสินใจเลือกประเภทบัญชีควรพิจารณาจากเป้าหมายการเทรดระยะยาวของคุณ และเลือกบัญชีที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด