ในบรรดาเทคนิคการวิเคราะห์กราฟแบบ Price Action ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน BOS หรือ Break of Structure ถือเป็นหนึ่งในคอนเซปต์ที่สำคัญที่สุด เพราะสามารถช่วยให้เทรดเดอร์ระบุทิศทางและแนวโน้มของตลาดได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น BOS คืออะไร BOS ย่อมาจาก Break of Structure หมายถึงจุดที่ราคาทะลุผ่าน Swing High หรือ Swing Low ครั้งล่าสุดไปได้ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของกราฟจากที่เคยเป็นมา เมื่อ BOS เกิดขึ้น มันมักจะสื่อถึงการเปลี่ยนทิศทางของเทรนด์หรืออย่างน้อยก็เป็นการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มในระยะสั้นไปจนถึงระยะกลาง โดยเราสามารถแบ่ง BOS ออกเป็น 2 ประเภทหลัก ตามทิศทางของการเคลื่อนไหวได้แก่ Bullish BOS เกิดเมื่อราคาทะลุผ่าน Swing High ล่าสุดขึ้นไปได้ บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นขาขึ้น Bearish BOS เกิดเมื่อราคาทะลุผ่าน Swing Low ล่าสุดลงมาได้ บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นขาลง ลักษณะสำคัญของ BOS BOS นั้นมีหลายลักษณะที่เทรดเดอร์ควรให้ความสนใจ เช่น …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
SMC คืออะไร SMC คือการวิเคราะห์ตลาด Forex โดยอาศัยพฤติกรรมของกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ หรือ Smart Money ซึ่งมักหมายถึงสถาบันการเงิน ธนาคารกลาง กองทุนประเภทต่างๆ หรือแม้แต่เทรดเดอร์ระดับแนวหน้าของโลกเป็นหลัก เหล่า Smart Money เหล่านี้ มีอิทธิพลอย่างมากในการขับเคลื่อนทิศทางของราคา เนื่องจากมีเม็ดเงินลงทุนในปริมาณมหาศาล สามารถสร้างกระแสซื้อขายให้กับคู่สกุลเงินที่ตนสนใจได้ในทันที ดังนั้นการติดตามและทำความเข้าใจถึงพฤติกรรมของ Smart Money จึงเป็นหัวใจสำคัญของการเทรดแบบ SMC ที่จะทำให้เราคาดการณ์ทิศทางของตลาดได้แม่นยำยิ่งขึ้น แนวคิดหลักของ SMC ทฤษฎี SMC มองว่าการเคลื่อนไหวของราคานั้นไม่ได้เป็นไปตามยถากรรม แต่มักจะถูกควบคุมและบงการโดย Smart Money เป็นหลัก โดยมีหลักการพื้นฐานดังนี้ ตลาดมักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ Smart Money ต้องการเสมอ Smart Money มักจะค่อยๆ สะสมออเดอร์ในช่วงที่ตลาดผันผวน เพื่อรอจังหวะที่จะปั่นราคาไปในทิศทางที่วางแผนเอาไว้ ราคามักจะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและรุนแรง เมื่อ Smart Money ได้คำสั่งซื้อขายเข้ามาอย่างหนาแน่น เมื่อ Smart Money พอใจกับกำไรหรือขาดทุนในระดับหนึ่งแล้ว ก็จะรีบออกจากตลาด …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
ในการวิเคราะห์กราฟแบบ ICT (Inner Circle Trader) นั้น มีเครื่องมือสำคัญหลายอย่างที่ช่วยให้เทรดเดอร์มองเห็นพฤติกรรมของตลาดและคาดการณ์ทิศทางได้แม่นยำมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ EQH และ EQL ซึ่งเป็นคอนเซปต์ที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างของราคาและแนวรับแนวต้านที่สำคัญนั่นเอง EQH และ EQL คืออะไร EQH ย่อมาจาก Equal High หมายถึงจุดสูงสุดของราคาที่อยู่ในระดับเดียวกัน EQL ย่อมาจาก Equal Low หมายถึงจุดต่ำสุดของราคาที่อยู่ในระดับเดียวกัน โดยทั่วไป EQH และ EQL จะต้องมีอย่างน้อย 2 จุดที่ราคาขึ้นไปแตะระดับเดียวกันสำหรับ EQH หรือลงมาแตะระดับเดียวกันสำหรับ EQL โดยที่จุดเหล่านั้นมักจะทิ้งระยะห่างบ้าง แต่ไม่ไกลจนเกินไป จุด EQH และ EQL ถือเป็นแนวรับแนวต้านชั้นดี เพราะแสดงถึงระดับที่ราคาเคยพยายามทะลุผ่านไปแล้วแต่ไม่สำเร็จ มีแรงซื้อขายเข้ามาประจันหน้ากันอย่างหนาแน่น ดังนั้นเมื่อราคาย้อนกลับมาแตะบริเวณนี้อีก มักจะมีแรงดีดกลับเกิดขึ้นค่อนข้างแรง ความสำคัญของ EQH EQL ในมุมมองของ ICT ตามทฤษฎีของ ICT แล้ว …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
ความหมายของ MSB/BMS MSB (Market Structure Break) หรือ BMS (Break of Market Structure) เป็นแนวคิดสำคัญในกลยุทธ์การเทรดแบบ ICT (Inner Circle Trader) Concept โดยหมายถึงการที่ราคาทะลุผ่านโครงสร้างตลาดที่สำคัญ ซึ่งบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มหรือการเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวใหม่ในตลาด ลักษณะของ MSB/BMS Bullish MSB/BMS: เกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุผ่านจุดสูงสุดเก่า (previous high) สร้างจุดต่ำสุดที่สูงกว่าจุดต่ำสุดก่อนหน้า (higher low) Bearish MSB/BMS: เกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุผ่านจุดต่ำสุดเก่า (previous low) สร้างจุดสูงสุดที่ต่ำกว่าจุดสูงสุดก่อนหน้า (lower high) ความสำคัญในกลยุทธ์ ICT บ่งชี้การเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม: MSB/BMS เป็นสัญญาณที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มของตลาด ระบุจุดเข้าเทรด: หลังจากเกิด MSB/BMS มักจะมีการสร้าง Order Block ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับการเข้าเทรด กำหนดระดับ Stop Loss: ใช้เป็นจุดอ้างอิงในการวาง Stop …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>