ICT Premium และ Discount Zone ในโลกของการเทรด Forex การเข้าใจแนวคิดของ ICT Premium และ Discount Zone เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเทรดที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าซื้อขาย บทความนี้จะอธิบายความหมาย วิธีการระบุ และการใช้งาน ICT Premium และ Discount Zone ในการเทรด ความหมายของ Premium และ Discount ก่อนที่จะเข้าใจแนวคิด ICT Premium และ Discount Zone เราต้องเข้าใจความหมายของคำว่า Premium และ Discount ก่อน: Premium: คือราคาที่สูงกว่ามูลค่าพื้นฐานหรือมูลค่าที่เป็นธรรม Discount: คือราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานหรือมูลค่าที่เป็นธรรม ในการเทรด นักเทรดมักจะมองหาโอกาสในการซื้อที่ราคา Discount และขายที่ราคา Premium (ICT Tradings, 2024) การตั้งค่า Fibonacci สำหรับ ICT Premium …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
SMC คืออะไร SMC คือการวิเคราะห์ตลาด Forex โดยอาศัยพฤติกรรมของกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ หรือ Smart Money ซึ่งมักหมายถึงสถาบันการเงิน ธนาคารกลาง กองทุนประเภทต่างๆ หรือแม้แต่เทรดเดอร์ระดับแนวหน้าของโลกเป็นหลัก เหล่า Smart Money เหล่านี้ มีอิทธิพลอย่างมากในการขับเคลื่อนทิศทางของราคา เนื่องจากมีเม็ดเงินลงทุนในปริมาณมหาศาล สามารถสร้างกระแสซื้อขายให้กับคู่สกุลเงินที่ตนสนใจได้ในทันที ดังนั้นการติดตามและทำความเข้าใจถึงพฤติกรรมของ Smart Money จึงเป็นหัวใจสำคัญของการเทรดแบบ SMC ที่จะทำให้เราคาดการณ์ทิศทางของตลาดได้แม่นยำยิ่งขึ้น แนวคิดหลักของ SMC ทฤษฎี SMC มองว่าการเคลื่อนไหวของราคานั้นไม่ได้เป็นไปตามยถากรรม แต่มักจะถูกควบคุมและบงการโดย Smart Money เป็นหลัก โดยมีหลักการพื้นฐานดังนี้ ตลาดมักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ Smart Money ต้องการเสมอ Smart Money มักจะค่อยๆ สะสมออเดอร์ในช่วงที่ตลาดผันผวน เพื่อรอจังหวะที่จะปั่นราคาไปในทิศทางที่วางแผนเอาไว้ ราคามักจะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและรุนแรง เมื่อ Smart Money ได้คำสั่งซื้อขายเข้ามาอย่างหนาแน่น เมื่อ Smart Money พอใจกับกำไรหรือขาดทุนในระดับหนึ่งแล้ว ก็จะรีบออกจากตลาด …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
FVG คืออะไร Fair Value Gap (FVG) คือช่องว่างของราคาที่เกิดขึ้นจากการที่ตลาดขาดสมดุล (Imbalance) ระหว่างอุปสงค์และอุปทาน ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็วเพื่อไปปิด Gap ที่เกิดขึ้น โดยปกติแล้วราคาในตลาดจะมีการเคลื่อนไหวอย่างค่อยเป็นค่อยไป สะท้อนถึงการซื้อขายที่มีความสมดุลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย แต่เมื่อใดก็ตามที่มีการสะสมของออเดอร์ในทิศทางใดทิศทางหนึ่งมากเกินไป อีกฝั่งหนึ่งจะเกิดการขาดแคลนคำสั่งซื้อหรือขายในระดับราคานั้นๆ ทำให้ตลาดไม่สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น Smooth และเกิดการกระโดดของราคาขึ้นมา ช่วงที่ราคามีการกระโดดอย่างรวดเร็วนี้เอง ที่เรียกว่าเป็น Fair Value Gap ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่สมดุลของอุปสงค์อุปทานในตลาด ก่อนที่ราคาจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อ Gap ถูกปิดลง FVG มักเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดมีสภาพคล่องต่ำ (Low Liquidity) เช่นในช่วงเปิดตลาดหลังวันหยุดยาว หรือระหว่างช่วงเวลา Midnight เป็นต้น เนื่องจากมีผู้เล่นในตลาดน้อยจึงทำให้เกิดความไม่สมดุลได้ง่าย ความสำคัญของ FVG ในมุมมอง ICT ตามความเชื่อของ ICT แล้ว FVG ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่มักเป็นผลมาจากการกระทำของ Smart Money (SM) ในตลาดเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจาก SM มักจะใช้กลยุทธ์การเทรดที่มุ่งเน้นเข้าไปในจุดที่มีสภาพคล่องต่ำ แล้วทำการกวาดออเดอร์ของรายย่อยจำนวนมากเพื่อผลักดันราคาไปยังทิศทางที่ต้องการ …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
Order Block คืออะไร Order Block (OB) คือกลุ่มแท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลังการเปลี่ยนทิศทางของราคาอย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยปกติแล้ว OB จะมีลักษณะเป็นแท่งเทียนที่มีขนาดใหญ่ และเกิดขึ้นหลังจากมีการพักตัวของราคาในกรอบแคบๆ (Consolidation) มาสักระยะหนึ่ง OB ถือเป็นคลังที่สะสม Liquidity ของตลาดเอาไว้ เนื่องจากเป็นช่วงที่นักลงทุนจำนวนมากเข้ามาวางคำสั่งซื้อหรือขายอย่างหนาแน่น เพื่อรอการระเบิดของราคาหลังจากอยู่ในภาวะ Sideway มาพอสมควร โดยทั่วไป Order Block จะแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ Bullish Order Block (BOB) – เกิดขึ้นเมื่อมีแท่งเทียนที่มีพื้นที่ใหญ่ปรากฏขึ้นหลังการ Breakout เหนือกรอบ Sideway ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสัญญาณของการเริ่มต้น Uptrend Bearish Order Block (BEB) – เกิดขึ้นเมื่อมีแท่งเทียนที่มีพื้นที่ใหญ่ปรากฏขึ้นหลังการ Breakdown ใต้กรอบ Sideway ซึ่งมักจะเป็นสัญญาณของการเริ่ม Downtrend ความสำคัญของ Order Block ในมุมมอง ICT …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
Breaker Block คืออะไร Breaker Block คือแท่งเทียนหรือกลุ่มของแท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลังจากราคาทะลุผ่าน Swing High หรือ Swing Low ครั้งล่าสุดไปได้ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของกราฟ (Structure) อย่างชัดเจน ลักษณะสำคัญของ Breaker Block มีดังนี้: เป็น Block ที่มีการปิดราคาเหนือ Swing High ครั้งล่าสุด (กรณีขาขึ้น) หรือต่ำกว่า Swing Low ครั้งล่าสุด (กรณีขาลง) ส่วนใหญ่จะประกอบด้วยแท่งเทียนอย่างน้อย 1-3 แท่ง ไม่จำเป็นต้องเป็นแท่งเดียว แท่งเทียนมักมีขนาดใหญ่ น้ำหนักหนัก และสัดส่วนเทียนเต็มเกือบทั้งแท่ง แสดงถึงแรงซื้อขายที่เด่นชัด หลังจากเกิด Breaker Block ขึ้นแล้ว ราคามักจะมีการพักตัวหรือย้อนกลับมาเล็กน้อย ก่อนที่จะเริ่มเคลื่อนไปในทิศทางเดิมต่อ ความสำคัญของ Breaker Block ในมุมมอง ICT ตามความเชื่อของกลุ่มเทรดเดอร์ ICT นั้น Breaker Block …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
Rejection Block คืออะไร Rejection Block เป็นหนึ่งในหลักการสำคัญของ ICT (Inner Circle Trader) ซึ่งเป็นแนวคิดที่ได้รับความนิยมในหมู่เทรดเดอร์ โดยอาศัยการวิเคราะห์ราคาจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งมักจะมีการสะสมออร์เดอร์ (liquidity) และกระตุ้นการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็ว นิยาม Rejection Block Rejection Block คือ รูปแบบราคาที่เกิดขึ้นหลังจากการกวาดสะสมออร์เดอร์ของนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งจะเห็นได้จากการเกิดแท่งเทียนที่มี rejection wick ยาวๆ ทั้งขาขึ้นและขาลง ก่อนที่ราคาจะย้อนกลับมายังทิศทางเดิม ทำให้เกิด market structure ใหม่ขึ้น นั่นคือเทรนด์ขาขึ้นหรือขาลงนั่นเอง ประเภทของ Rejection Block Rejection Block แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ Bullish Rejection Block เกิดขึ้นเมื่อราคาลงไปกวาด liquidity บริเวณด้านล่าง แล้วเกิดแท่งเทียนที่มี lower wick ยาวๆ หนึ่งหรือสองแท่ง หลังจากนั้นราคาจะดีดกลับขึ้นมา พร้อมกับเกิด …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
Imbalance คืออะไร Imbalance หรือความไม่สมดุลของราคา เป็นแนวคิดสำคัญที่ถูกนำเสนอโดย ICT (Inner Circle Trader) ซึ่งอธิบายว่าตลาดมักจะพยายามสร้างความสมดุลระหว่างด้านซื้อ (Buy Side) และด้านขาย (Sell Side) ในทุกช่วงราคาบนกราฟ ความหมายของ Imbalance Buy Side หมายถึง การเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีการย้อนกลับหรือแกว่งตัวมากนัก Sell Side หมายถึง การเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางขาลงอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีการดีดตัวขึ้นหรือแกว่งตัวมากนัก Balanced Range คือช่วงราคาที่มีทั้ง Buy Side และ Sell Side อยู่ในสัดส่วนที่สมดุลกัน Imbalanced Range คือช่วงราคาที่มีเพียงด้านใดด้านหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น Buy Side หรือ Sell Side เพียงอย่างเดียว ซึ่งถือว่าเป็นจุดไม่สมดุล ตัวอย่างของ Imbalance ในแท่งเทียน ในแท่งเทียนขาขึ้น (สีเขียว) ส่วนไส้เทียนถือเป็น Imbalanced …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
IDM (Inducement) เป็นหนึ่งในแนวคิดสำคัญของ ICT (Inner Circle Trader) ที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของ “Smart Money” ในตลาด Forex ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะอธิบายความหมายของ Inducement และวิธีการวิเคราะห์ตามแนวคิด ICT Inducement คืออะไร? Inducement ในบริบทของการเทรด Forex หมายถึงกลยุทธ์ที่ Smart Money ใช้เพื่อล่อให้เทรดเดอร์รายย่อยเข้าเทรดผิดทิศทาง โดยสร้างภาพลวงตาว่าตลาดจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางหนึ่ง แต่ในความเป็นจริงกลับเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงกันข้าม (อ้างอิงจาก ICT Tradings, 2024) ลักษณะสำคัญของ Inducement มักเกิดขึ้นที่จุดสำคัญในโครงสร้างตลาด เช่น Order Block, Supply/Demand Zone หรือ Support/Resistance Zone เป็นการเคลื่อนไหวของราคาที่ดูเหมือนจะสร้างแนวโน้มใหม่ แต่จริงๆ แล้วเป็นเพียงการหลอกล่อ มักเกิดขึ้นก่อนการเปลี่ยนแปลงทิศทางของตลาดอย่างมีนัยสำคัญ (อ้างอิงจาก ข้อมูลของ TrendSpider, 2024) วิธีการวิเคราะห์ Inducement ตามแนวคิด ICT …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
Liquidity Zone คือพื้นที่ในตลาด Forex ที่มีปริมาณการซื้อขายสูง และมีความสำคัญในการวิเคราะห์ตามแนวคิด ICT Trading ต่อไปนี้คือรายละเอียดเกี่ยวกับ Liquidity Zone และวิธีการวิเคราะห์: Liquidity Zone คืออะไร? Liquidity Zone หมายถึงพื้นที่บนกราฟราคาที่มีความต้องการซื้อหรือขายสูงสำหรับคู่สกุลเงินใดสกุลเงินหนึ่ง โดยทั่วไปมักเกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่มีมุมมองเดียวกันต่อสินทรัพย์นั้น ทำให้เกิดการซื้อหรือขายในปริมาณมาก (อ้างอิง นิยาม และความหมาย B2Broker, 2024) ความสำคัญของ Liquidity Zone ใน ICT Trading แสดงถึงพื้นที่ที่ “Smart Money” หรือนักลงทุนสถาบันมีแนวโน้มจะเข้ามาทำธุรกรรม มักเกิดขึ้นที่ระดับราคาสำคัญ เช่น จุดสูงสุดหรือต่ำสุดก่อนหน้า สามารถใช้คาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตได้ วิธีวิเคราะห์ Liquidity Zone ใน ICT Trading ระบุระดับ Support และ Resistance: ใช้กรอบเวลาอย่างน้อย 1 วัน หา Resistance (จุดสูงสุด) …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
Market Structure Shift หรือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตลาด เป็นแนวคิดสำคัญในการวิเคราะห์ตลาดการเงิน โดยเฉพาะในกลยุทธ์การเทรดแบบ Inner Circle Trader (ICT) บทความนี้จะอธิบายความหมาย วิธีการระบุ และการนำ Market Structure Shift ไปใช้ในการเทรด Market Structure Shift คืออะไร? Market Structure Shift หมายถึงจุดที่โครงสร้างของตลาดเปลี่ยนแปลง ซึ่งบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มหรือทิศทางของราคา โดยทั่วไปแบ่งเป็น 2 ประเภท: Bullish Structure Shift: เกิดขึ้นเมื่อราคาสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่สูงกว่าจุดสูงสุดก่อนหน้าในแนวโน้มขาลง Bearish Structure Shift: เกิดขึ้นเมื่อราคาสร้างจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำกว่าจุดต่ำสุดก่อนหน้าในแนวโน้มขาขึ้น (อ้างอิงจาก TrendSpider, 2024) วิธีการระบุ Market Structure Shift วิเคราะห์จุดสูงสุดและต่ำสุด: ในแนวโน้มขาขึ้น: ดูการสร้างจุดสูงสุดและต่ำสุดที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ในแนวโน้มขาลง: ดูการสร้างจุดสูงสุดและต่ำสุดที่ต่ำลงเรื่อยๆ สังเกตการเปลี่ยนแปลงรูปแบบ: Bullish Shift: ราคาทะลุจุดสูงสุดก่อนหน้าในแนวโน้มขาลง Bearish Shift: …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
- 1
- 2