SMC คืออะไร SMC คือการวิเคราะห์ตลาด Forex โดยอาศัยพฤติกรรมของกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ หรือ Smart Money ซึ่งมักหมายถึงสถาบันการเงิน ธนาคารกลาง กองทุนประเภทต่างๆ หรือแม้แต่เทรดเดอร์ระดับแนวหน้าของโลกเป็นหลัก เหล่า Smart Money เหล่านี้ มีอิทธิพลอย่างมากในการขับเคลื่อนทิศทางของราคา เนื่องจากมีเม็ดเงินลงทุนในปริมาณมหาศาล สามารถสร้างกระแสซื้อขายให้กับคู่สกุลเงินที่ตนสนใจได้ในทันที ดังนั้นการติดตามและทำความเข้าใจถึงพฤติกรรมของ Smart Money จึงเป็นหัวใจสำคัญของการเทรดแบบ SMC ที่จะทำให้เราคาดการณ์ทิศทางของตลาดได้แม่นยำยิ่งขึ้น แนวคิดหลักของ SMC ทฤษฎี SMC มองว่าการเคลื่อนไหวของราคานั้นไม่ได้เป็นไปตามยถากรรม แต่มักจะถูกควบคุมและบงการโดย Smart Money เป็นหลัก โดยมีหลักการพื้นฐานดังนี้ ตลาดมักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ Smart Money ต้องการเสมอ Smart Money มักจะค่อยๆ สะสมออเดอร์ในช่วงที่ตลาดผันผวน เพื่อรอจังหวะที่จะปั่นราคาไปในทิศทางที่วางแผนเอาไว้ ราคามักจะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและรุนแรง เมื่อ Smart Money ได้คำสั่งซื้อขายเข้ามาอย่างหนาแน่น เมื่อ Smart Money พอใจกับกำไรหรือขาดทุนในระดับหนึ่งแล้ว ก็จะรีบออกจากตลาด …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
FVG คืออะไร Fair Value Gap (FVG) คือช่องว่างของราคาที่เกิดขึ้นจากการที่ตลาดขาดสมดุล (Imbalance) ระหว่างอุปสงค์และอุปทาน ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็วเพื่อไปปิด Gap ที่เกิดขึ้น โดยปกติแล้วราคาในตลาดจะมีการเคลื่อนไหวอย่างค่อยเป็นค่อยไป สะท้อนถึงการซื้อขายที่มีความสมดุลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย แต่เมื่อใดก็ตามที่มีการสะสมของออเดอร์ในทิศทางใดทิศทางหนึ่งมากเกินไป อีกฝั่งหนึ่งจะเกิดการขาดแคลนคำสั่งซื้อหรือขายในระดับราคานั้นๆ ทำให้ตลาดไม่สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น Smooth และเกิดการกระโดดของราคาขึ้นมา ช่วงที่ราคามีการกระโดดอย่างรวดเร็วนี้เอง ที่เรียกว่าเป็น Fair Value Gap ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่สมดุลของอุปสงค์อุปทานในตลาด ก่อนที่ราคาจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อ Gap ถูกปิดลง FVG มักเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดมีสภาพคล่องต่ำ (Low Liquidity) เช่นในช่วงเปิดตลาดหลังวันหยุดยาว หรือระหว่างช่วงเวลา Midnight เป็นต้น เนื่องจากมีผู้เล่นในตลาดน้อยจึงทำให้เกิดความไม่สมดุลได้ง่าย ความสำคัญของ FVG ในมุมมอง ICT ตามความเชื่อของ ICT แล้ว FVG ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่มักเป็นผลมาจากการกระทำของ Smart Money (SM) ในตลาดเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจาก SM มักจะใช้กลยุทธ์การเทรดที่มุ่งเน้นเข้าไปในจุดที่มีสภาพคล่องต่ำ แล้วทำการกวาดออเดอร์ของรายย่อยจำนวนมากเพื่อผลักดันราคาไปยังทิศทางที่ต้องการ …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
Order Block คืออะไร Order Block (OB) คือกลุ่มแท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลังการเปลี่ยนทิศทางของราคาอย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยปกติแล้ว OB จะมีลักษณะเป็นแท่งเทียนที่มีขนาดใหญ่ และเกิดขึ้นหลังจากมีการพักตัวของราคาในกรอบแคบๆ (Consolidation) มาสักระยะหนึ่ง OB ถือเป็นคลังที่สะสม Liquidity ของตลาดเอาไว้ เนื่องจากเป็นช่วงที่นักลงทุนจำนวนมากเข้ามาวางคำสั่งซื้อหรือขายอย่างหนาแน่น เพื่อรอการระเบิดของราคาหลังจากอยู่ในภาวะ Sideway มาพอสมควร โดยทั่วไป Order Block จะแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ Bullish Order Block (BOB) – เกิดขึ้นเมื่อมีแท่งเทียนที่มีพื้นที่ใหญ่ปรากฏขึ้นหลังการ Breakout เหนือกรอบ Sideway ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสัญญาณของการเริ่มต้น Uptrend Bearish Order Block (BEB) – เกิดขึ้นเมื่อมีแท่งเทียนที่มีพื้นที่ใหญ่ปรากฏขึ้นหลังการ Breakdown ใต้กรอบ Sideway ซึ่งมักจะเป็นสัญญาณของการเริ่ม Downtrend ความสำคัญของ Order Block ในมุมมอง ICT …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
การวิเคราะห์ Demand Supply ICT (Inner Circle Trader) Smart Money Concept เป็นกลยุทธ์การเทรดที่มุ่งเน้นการวิเคราะห์พฤติกรรมของนักลงทุนสถาบันหรือ “Smart Money” โดยใช้การวิเคราะห์ Demand และ Supply Zone เป็นหลัก วิธีการนี้ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถระบุโอกาสในการเทรดได้อย่างแม่นยำมากขึ้น หลักการสำคัญของ ICT Smart Money Concept การวิเคราะห์โครงสร้างตลาด: ICT ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์โครงสร้างตลาด โดยแบ่งเป็น: Break of Structure (BOS): จุดที่ราคาทะลุโครงสร้างเดิมในทิศทางของแนวโน้ม Change of Character (CHOCH): จุดที่ราคาเปลี่ยนทิศทางแนวโน้ม (ICT Tradings, 2024) การระบุ Supply และ Demand Zone: Supply Zone: พื้นที่ในตลาดที่ราคามีแนวโน้มลดลงอย่างรวดเร็ว Demand Zone: พื้นที่ในตลาดที่ราคามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว Fair Value …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
ICT Inner Circle Trader คือ อะไร ICT หรือ Inner Circle Trader เป็นแนวคิดการเทรดที่พัฒนาโดย Michael J. Huddleston ซึ่งมุ่งเน้นการวิเคราะห์โครงสร้างตลาดและพฤติกรรมของ “Smart Money” หรือนักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่ แนวคิดนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่เทรดเดอร์ทั่วโลก เนื่องจากมีความแม่นยำสูงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับหลายตลาด ไม่ว่าจะเป็น Forex, หุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์ หรือคริปโตเคอร์เรนซี หากคุณสนใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับ ICT คุณจำเป็นต้องทำความเข้าใจแนวคิดหลักต่อไปนี้: การวิเคราะห์โครงสร้างตลาด (Market Structure Analysis) ICT ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์โครงสร้างตลาด โดยแบ่งเป็น: Break of Structure (BOS): จุดที่ราคาทะลุโครงสร้างเดิมในทิศทางของแนวโน้ม Change of Character (CHOCH): จุดที่ราคาเปลี่ยนทิศทางแนวโน้ม การเข้าใจโครงสร้างตลาดช่วยให้เทรดเดอร์สามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาได้ดีขึ้น (ICT Tradings, 2024) โซนสภาพคล่อง (Liquidity Zones) ICT แบ่งโซนสภาพคล่องเป็น …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
ict กับ smc ต่างกัน อย่างไร ICT (Inner Circle Trader) และ SMC (Smart Money Concepts) เป็นกลยุทธ์การเทรดที่ได้รับความนิยมในชุมชนเทรดเดอร์ แม้ว่าทั้งสองแนวคิดจะมีจุดร่วมกันหลายประการ แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญ บทความนี้จะอธิบายความเหมือนและความต่างระหว่าง ICT และ SMC อย่างละเอียด ที่มาและประวัติ SMC (Smart Money Concepts): เริ่มต้นโดย Richard Wyckoff เมื่อกว่า 100 ปีที่แล้ว เป็นแนวคิดดั้งเดิมที่มุ่งเน้นการวิเคราะห์พฤติกรรมของ “สมาร์ทมันนี่” หรือนักลงทุนรายใหญ่ ICT (Inner Circle Trader): พัฒนาโดย Michael Huddleston (รู้จักในนาม ICT) อ้างว่าเป็นผู้คิดค้น SMC แต่ในความเป็นจริงเป็นการนำแนวคิดของ Wyckoff มาปรับใช้และพัฒนาต่อ (BabyPips, 2024) แนวคิดหลักและความเหมือน ทั้ง ICT …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
BISI คืออะไร? BISI ย่อมาจาก Buy Side Imbalance Sell Side Inefficiency เป็นหนึ่งในแนวคิดสำคัญของกลยุทธ์การเทรดแบบ ICT (Inner Circle Trader) ในตลาด Forex ลักษณะสำคัญของ BISI ความหมายโดยรวม: BISI เป็นช่องว่างของมูลค่าที่เป็นธรรม (fair value gap) ในทิศทางขาขึ้น ตามด้วยการเคลื่อนไหวของราคาขึ้นอย่างรุนแรง แรงขับเคลื่อน: การเคลื่อนไหวนี้ขับเคลื่อนโดยผู้ซื้อเป็นหลัก โดยมีผู้ขายเข้ามาต่อต้านน้อยมาก รูปแบบแท่งเทียน: BISI ประกอบด้วยการเรียงตัวของแท่งเทียน 3 แท่ง โดยมีลักษณะดังนี้: แท่งเทียนมีตัวเทียนขนาดใหญ่ (large bodies) มีไส้เทียนสั้นมาก (minimal wicks) แสดงถึงแรงซื้อที่รุนแรง ช่องว่างราคา: เกิดช่องว่างระหว่างจุดสูงสุดของแท่งเทียนแรกและจุดต่ำสุดของแท่งเทียนที่สาม นัยยะสำคัญ: ช่องว่างนี้แสดงถึงความแข็งแกร่งของผู้ซื้อและความไร้ประสิทธิภาพของผู้ขายในการต่อต้านแรงซื้อ การใช้ BISI ในการเทรด BISI สามารถใช้ในการเทรดได้หลายรูปแบบ แต่ไม่ควรใช้เพียงอย่างเดียว ควรใช้ร่วมกับแนวคิด ICT …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
SIBI หรือ Sell Side Imbalance Buy Side Inefficiency เป็นหนึ่งในแนวคิดที่สำคัญของกลยุทธ์การเทรดแบบ ICT (Inner Circle Trader) รูปแบบนี้มีบทบาทสำคัญในการระบุโอกาสการเทรดที่อาจเกิดขึ้นในตลาดขาลง มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ SIBI กันว่าคืออะไร เกิดขึ้นอย่างไร และนักเทรดสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างไร SIBI คืออะไร? SIBI เป็นช่องว่างมูลค่าที่เป็นธรรม (fair value gap) ในทิศทางขาลง ตามด้วยการเคลื่อนไหวของราคาลงอย่างรวดเร็ว มันแสดงถึงแรงกดดันการขายที่รุนแรงโดยมีแรงซื้อเข้ามาตอบโต้น้อยมาก คำว่า “Sell Side Imbalance Buy Side Inefficiency” อธิบายสภาวะตลาดนี้ได้อย่างเหมาะสม – แสดงถึงการครอบงำของผู้ขายและความไร้ประสิทธิภาพของผู้ซื้อ การเกิดรูปแบบ SIBI SIBI สามารถระบุได้จากการเกิดแท่งเทียน 3 แท่งที่มีลักษณะเฉพาะ: แท่งเทียนทั้งสามมีตัวเทียนขนาดใหญ่และมีไส้เทียนน้อยมาก แสดงถึงแรงกดดันการขายที่รุนแรง มีช่องว่างที่สังเกตได้ระหว่างจุดต่ำสุดของแท่งเทียนแรกกับจุดสูงสุดของแท่งเทียนที่สาม รูปแบบโดยรวมแสดงแนวโน้มขาลงอย่างชัดเจน การเกิดรูปแบบนี้เน้นย้ำถึงการมีอยู่อย่างท่วมท้นของผู้ขายในตลาดและความไม่สามารถของผู้ซื้อในการต่อต้านแรงกดดันการขายนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีใช้ SIBI ในการเทรด แม้ว่า SIBI …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>