ในการวิเคราะห์กราฟเทคนิคสำหรับการลงทุน “Doji” เป็นหนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนที่สำคัญและน่าสนใจ บทความนี้จะอธิบายความหมาย ลักษณะ ประเภท และความสำคัญของ Doji ในการวิเคราะห์ตลาด เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและใช้ประโยชน์จากข้อมูลนี้ในการตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 1. Doji คืออะไร? Doji เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อราคาเปิดและราคาปิดของช่วงเวลาที่กำหนดมีค่าเท่ากันหรือใกล้เคียงกันมาก ทำให้ตัวแท่งเทียนมีลักษณะคล้ายกับเครื่องหมายบวก (+) หรือตัว T ชื่อ “Doji” มาจากภาษาญี่ปุ่น แปลว่า “เหมือนกัน” หรือ “ในเวลาเดียวกัน” 1.1 ลักษณะเฉพาะของ Doji ราคาเปิดและราคาปิดอยู่ในระดับเดียวกันหรือใกล้เคียงกันมาก ตัวแท่งเทียนมีลักษณะเป็นเส้นแนวนอนสั้นๆ อาจมีไส้เทียน (Shadow) ด้านบนและ/หรือด้านล่าง ความยาวของไส้เทียนอาจแตกต่างกันไปตามประเภทของ Doji 2. ประเภทของ Doji 2.1 Standard Doji มีลักษณะคล้ายเครื่องหมายบวก (+) ไส้เทียนบนและล่างมีความยาวใกล้เคียงกัน 2.2 Long-Legged Doji มีไส้เทียนบนและล่างที่ยาวกว่า Standard Doji บ่งบอกถึงความไม่แน่นอนและความผันผวนในตลาด 2.3 Dragonfly Doji …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
Gravestone Doji คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับนักเทรดมือใหม่ ในโลกของการเทรดและการวิเคราะห์ทางเทคนิค รูปแบบแท่งเทียนเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา หนึ่งในรูปแบบที่น่าสนใจและมีความสำคัญคือ Gravestone Doji แต่คุณรู้จักมันดีแค่ไหน? บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Gravestone Doji อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย วิธีการระบุ ไปจนถึงการนำไปใช้ในการวิเคราะห์ตลาด 1. Gravestone Doji คืออะไร? Gravestone Doji เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะ โดยมีชื่อภาษาไทยว่า “หลุมศพ” เนื่องจากรูปร่างของมันคล้ายกับหลุมศพหรือป้ายหลุมศพ ลักษณะสำคัญของ Gravestone Doji: ราคาเปิดและราคาปิดอยู่ที่จุดต่ำสุดหรือใกล้เคียงกับจุดต่ำสุดของวัน มีไส้เทียนด้านบนยาว แสดงถึงการพุ่งขึ้นของราคาระหว่างวัน ไม่มีหรือมีไส้เทียนด้านล่างสั้นมาก 2. วิธีระบุ Gravestone Doji การระบุ Gravestone Doji ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงมองหาแท่งเทียนที่มีลักษณะดังนี้: ราคาเปิดและปิดอยู่ที่หรือใกล้จุดต่ำสุดของวัน มีไส้เทียนด้านบนยาว ไม่มีหรือมีไส้เทียนด้านล่างสั้นมาก 3. ความสำคัญของ Gravestone Doji Gravestone Doji มักถูกมองว่าเป็นสัญญาณการกลับตัวขาลง โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาขึ้น เหตุผลเบื้องหลังคือ: แสดงถึงการที่ราคาพยายามพุ่งขึ้นแต่ไม่สามารถรักษาระดับไว้ได้ …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>