RoboForex เป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 และให้บริการมาอย่างยาวนาน บทความนี้จะรีวิวรายละเอียดต่างๆ ของ RoboForex อย่างครบถ้วน เพื่อให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้ว่าเหมาะกับตนเองหรือไม่
RoboForex คืออะไร
RoboForex เป็นโบรกเกอร์ที่ให้บริการซื้อขาย Forex และ CFD หลากหลายประเภท ก่อตั้งในปี 2009 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศเบลีซ โดยมีจุดเด่นสำคัญ ได้แก่:
- สเปรดต่ำและค่าคอมมิชชั่นที่แข่งขันได้
- แพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย
- ผลิตภัณฑ์การเทรดครอบคลุมหลายประเภทสินทรัพย์
- โบนัสและโปรโมชั่นที่น่าสนใจ
- เลเวอเรจสูงถึง 1:2000
ปัจจุบัน RoboForex ให้บริการลูกค้าในกว่า 169 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย
RoboForex ดีไหม
RoboForex เป็นโบรกเกอร์ที่มีทั้งข้อดีและข้อควรพิจารณา เราจะมาดูรายละเอียดกันดังนี้:
ข้อดีของ RoboForex
- ประสบการณ์ยาวนาน – ดำเนินธุรกิจมากว่า 10 ปี แสดงถึงความมั่นคง
- แพลตฟอร์มหลากหลาย – รองรับ MT4, MT5, cTrader และแพลตฟอร์มของตนเอง
- สินทรัพย์ให้เทรดครบครัน – มีทั้ง Forex, หุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโตเคอร์เรนซี
- เลเวอเรจสูง – สูงสุดถึง 1:2000 ในบางประเภทบัญชี
- โบนัสและโปรโมชั่นน่าสนใจ – เช่น โบนัสต้อนรับ $30, โบนัสเงินฝาก 115%
- ฝาก-ถอนสะดวก – รองรับการโอนเงินผ่านธนาคารไทย
- VPS ฟรี – สำหรับลูกค้าที่มียอดเงินในบัญชีตามเงื่อนไข
- ระบบ Copy Trade – ผ่านแพลตฟอร์ม CopyFX
- ไม่มีค่าธรรมเนียมฝากเงิน – ช่วยประหยัดต้นทุน
- การแข่งขันเทรดประจำเดือน – ชิงรางวัลรวมกว่า $3,000
ข้อเสียของ RoboForex
- การกำกับดูแลไม่เข้มงวด – ไม่ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานชั้นนำ Tier 1 เช่น FCA หรือ ASIC
- รายงานปัญหา Slippage – โดยเฉพาะในช่วงตลาดผันผวน
- ค่า Swap สูง – ในบางคู่สกุลเงินและสินทรัพย์
- มีค่าธรรมเนียมถอนเงิน – ในบางวิธีการถอน
รีวิวจาก Trustpilot
RoboForex ได้รับคะแนนรีวิวบน Trustpilot 4.1 จาก 5 ดาว จากรีวิวทั้งหมด 380 รายการ (ข้อมูล ณ สิงหาคม 2024) โดยมีรายละเอียดดังนี้:
- 5 ดาว: 62%
- 4 ดาว: 17%
- 3 ดาว: 5%
- 2 ดาว: 3%
- 1 ดาว: 13%
ความคิดเห็นส่วนใหญ่เป็นด้านบวก โดยผู้ใช้ชื่นชมเรื่องความรวดเร็วในการฝาก-ถอนเงิน สเปรดต่ำ และแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย
อย่างไรก็ตาม มีรีวิวด้านลบบ้างเกี่ยวกับปัญหาในการถอนเงิน และ Slippage ในช่วงที่ตลาดผันผวน ซึ่งทาง RoboForex ก็ได้ตอบกลับและพยายามแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าในทุกกรณี
RoboForex โบนัสและโปรโมชั่น
RoboForex มีโบนัสและโปรโมชั่นที่น่าสนใจหลายรายการ ดังนี้:
- โบนัสต้อนรับ $30
- สำหรับลูกค้าใหม่ที่เปิดบัญชี Pro หรือ ProCent
- ต้องฝากเงินขั้นต่ำ $10 เพื่อรับโบนัส
- สามารถถอนกำไรที่ได้จากการใช้โบนัสได้
- โบนัสเงินฝาก 115%
- สำหรับบัญชี Pro และ ProCent
- มีเงื่อนไขในการเทรดเพื่อถอนโบนัส
- โบนัสส่วนแบ่งกำไร 60%
- สำหรับการฝากเงินครั้งแรกและครั้งต่อไปในบัญชี Pro และ ProCent
- Cashback สูงสุด 10%
- คืนเงินตามปริมาณการเทรด
- VPS ฟรี
- สำหรับลูกค้าที่มียอดเงินในบัญชีตามเงื่อนไข
- การแข่งขันเทรดประจำเดือน
- ชิงเงินรางวัลรวมกว่า $3,000
ควรอ่านเงื่อนไขของแต่ละโบนัสและโปรโมชั่นอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจรับ เนื่องจากอาจมีข้อกำหนดในการเทรดหรือถอนเงินที่ต้องปฏิบัติตาม
RoboForex ใบอนุญาต
RoboForex ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานดังต่อไปนี้:
- Financial Services Commission (FSC) ของประเทศเบลีซ
- หมายเลขใบอนุญาต: IFSC/60/271/TS/17
- ถือเป็นใบอนุญาตระดับ 3 (น่าเชื่อถือต่ำ)
- Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC)
- หมายเลขใบอนุญาต: 191/13 (สำหรับ RoboMarkets Ltd.)
- ถือเป็นใบอนุญาตระดับ 2 (น่าเชื่อถือปานกลาง)
- Financial Services Authority (FSA) ของเซเชลส์
- หมายเลขใบอนุญาต: SD037
- ถือเป็นใบอนุญาตระดับ 3 (น่าเชื่อถือต่ำ)
แม้ว่า RoboForex จะได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานเหล่านี้ แต่ควรทราบว่าหน่วยงานกำกับดูแลเหล่านี้อาจไม่ได้มีมาตรฐานการกำกับดูแลที่เข้มงวดเท่ากับหน่วยงานชั้นนำอย่าง FCA ของสหราชอาณาจักร หรือ ASIC ของออสเตรเลีย ดังนั้น นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงนี้ก่อนตัดสินใจเปิดบัญชี
RoboForex แพลตฟอร์ม
RoboForex นำเสนอแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเทรดทุกระดับ ดังนี้:
- MetaTrader 4 (MT4)
- แพลตฟอร์มยอดนิยมที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในตลาด Forex
- มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคมากมาย
- รองรับการใช้งาน Expert Advisors (EAs)
- MetaTrader 5 (MT5)
- รุ่นที่พัฒนาต่อจาก MT4 มีฟีเจอร์เพิ่มเติมหลายอย่าง
- รองรับการเทรดสินทรัพย์หลากหลายประเภทมากขึ้น
- มีเครื่องมือวิเคราะห์และทดสอบกลยุทธ์ที่ทันสมัย
- cTrader
- แพลตฟอร์มที่เน้นความเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขาย
- เหมาะสำหรับนักเทรด Scalping และ Day Trading
- มีอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและสวยงาม
- R WebTrader
- แพลตฟอร์มเว็บเทรดที่พัฒนาโดย RoboForex เอง
- ไม่ต้องดาวน์โหลดหรือติดตั้งโปรแกรม สามารถเทรดผ่านเว็บบราวเซอร์ได้ทันที
- รองรับการเทรดสินทรัพย์หลากหลายประเภท
- R MobileTrader
- แอปพลิเคชันมือถือสำหรับการเทรดบนสมาร์ทโฟน
- รองรับทั้งระบบ iOS และ Android
- มีฟีเจอร์ครบถ้วนเหมือนกับการเทรดบนคอมพิวเตอร์
- R StocksTrader
- แพลตฟอร์มเฉพาะสำหรับการเทรดหุ้นและ ETFs
- มีสินทรัพย์ให้เลือกเทรดมากกว่า 12,000 รายการ
ทุกแพลตฟอร์มของ RoboForex รองรับการใช้งานทั้งบนคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์มือถือ ทำให้นักเทรดสามารถติดตามและจัดการพอร์ตการลงทุนได้ทุกที่ทุกเวลา
RoboForex ผลิตภัณฑ์เทรด
RoboForex นำเสนอผลิตภัณฑ์การเทรดที่หลากหลาย ครอบคลุมสินทรัพย์หลายประเภท ดังนี้:
- Forex
- มีคู่สกุลเงินให้เลือกเทรดมากกว่า 40 คู่
- รวมทั้งคู่เงินหลัก คู่เงินรอง และคู่เงินแปลก
- สเปรดเริ่มต้นตั้งแต่ 0 pip ในบัญชี ECN
- หุ้น CFDs
- มี CFDs บนหุ้นมากกว่า 12,000 ตัว จากตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก
- รวมถึงหุ้นของบริษัทชั้นนำจาก NYSE, NASDAQ, LSE และอื่นๆ
- ดัชนีหุ้น
- สามารถเทรด CFDs บนดัชนีหุ้นสำคัญได้ เช่น S&P 500, NASDAQ, Dow Jones, DAX, FTSE 100
- สินค้าโภคภัณฑ์
- เทรด CFDs บนสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ เช่น ทองคำ, น้ำมัน, เงิน, แพลทินัม
- มีทั้งสัญญา Spot และ Futures
- คริปโตเคอร์เรนซี
- มีคู่เทรด Crypto CFDs มากกว่า 30 คู่
- รวมถึง Bitcoin, Ethereum, Litecoin และ Ripple
- ETFs
- สามารถเทรด CFDs บน ETFs ได้หลากหลาย
- ครอบคลุม ETFs ที่ติดตามดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, และกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ
- พันธบัตรรัฐบาล
- เทรด CFDs บนพันธบัตรรัฐบาลของประเทศต่างๆ ได้
ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เทรดทำให้นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงและหาโอกาสในการทำกำไรได้จากหลายตลาด อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาและทำความเข้าใจกับแต่ละผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดก่อนเริ่มเทรด เนื่องจากแต่ละประเภทมีความเสี่ยงและลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน
RoboForex ประเภทบัญชี
RoboForex นำเสนอประเภทบัญชีที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเทรดทุกระดับ ดังนี้:
- บัญชี Pro
- เหมาะสำหรับนักเทรดทั่วไปและผู้เริ่มต้น
- เงินฝากขั้นต่ำ: $10
- สเปรดเริ่มต้นที่ 1.3 pips
- เลเวอเรจสูงสุด 1:2000
- รองรับการรับโบนัสและโปรโมชั่นต่างๆ
- บัญชี ECN
- เหมาะสำหรับนักเทรดมืออาชีพที่ต้องการสเปรดต่ำและการดำเนินการที่รวดเร็ว
- เงินฝากขั้นต่ำ: $10
- สเปรดเริ่มต้นที่ 0 pips + ค่าคอมมิชชั่น
- เลเวอเรจสูงสุด 1:500
- การดำเนินการคำสั่งซื้อขายที่รวดเร็ว
- บัญชี Prime
- เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการเงื่อนไขการเทรดที่ดีที่สุด
- เงินฝากขั้นต่ำ: $10
- สเปรดเริ่มต้นที่ 0 pips
- เลเวอเรจสูงสุด 1:300
- ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
- บัญชี ProCent
- เหมาะสำหรับการทดสอบกลยุทธ์ด้วยเงินจริงจำนวนน้อย
- เงินฝากขั้นต่ำ: $10
- สเปรดเริ่มต้นที่ 1.3 pips
- เลเวอเรจสูงสุด 1:2000
- ขนาดล็อตเริ่มต้นที่ 0.01 lot
- บัญชี R StocksTrader
- เหมาะสำหรับการเทรดหุ้นและ ETFs
- เงินฝากขั้นต่ำ: $100
- สเปรดขึ้นอยู่กับสภาพตลาด
- เลเวอเรจสูงสุด 1:20
- สามารถซื้อหุ้นจริงได้
นักลงทุนควรพิจารณาเลือกประเภทบัญชีที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรด เป้าหมายการลงทุน และประสบการณ์ของตนเอง โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น เงินทุน ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และประเภทสินทรัพย์ที่ต้องการเทรด
RoboForex ฝากเงิน ถอนเงิน
RoboForex มีช่องทางการฝากและถอนเงินที่หลากหลาย รองรับความต้องการของนักลงทุนในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย ดังนี้:
วิธีการฝากเงิน:
- บัตรเครดิต/เดบิต (Visa, Mastercard, UnionPay)
- การโอนเงินผ่านธนาคาร (รวมถึงธนาคารไทย)
- E-wallets (Skrill, Neteller, Perfect Money, WebMoney)
- การโอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ
- คริปโตเคอร์เรนซี (Bitcoin, Ethereum, Tether)
วิธีการถอนเงิน:
- การโอนเงินผ่านธนาคาร
- E-wallets
- บัตรเครดิต/เดบิต
- คริปโตเคอร์เรนซี
ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการฝาก-ถอนเงิน:
- ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากเงิน
- การถอนเงินบางวิธีอาจมีค่าธรรมเนียม
- เวลาในการดำเนินการถอนเงินโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1-2 วันทำการ
- มีระบบถอนเงินอัตโนมัติ สามารถถอนได้แม้ในวันหยุด
- รองรับการฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทย 4 แห่ง ได้แก่ กสิกรไทย, ไทยพาณิชย์, กรุงเทพ, และกรุงไทย
ข้อควรระวัง:
- ตรวจสอบเงื่อนไขและข้อกำหนดในการฝาก-ถอนเงินของแต่ละวิธีให้ดีก่อนทำรายการ
- ควรใช้บัญชีธนาคารหรือวิธีการชำระเงินที่เป็นชื่อเดียวกับบัญชีเทรดเพื่อป้องกันปัญหาในการถอนเงิน
- หากมีปัญหาในการฝากหรือถอนเงิน ควรติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ RoboForex โดยตรง
RoboForex ติดต่อ
RoboForex มีช่องทางการติดต่อและบริการสนับสนุนลูกค้าหลายรูปแบบ ดังนี้:
- Live Chat
- บริการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์
- สามารถเข้าถึงได้จากหน้าเว็บไซต์หลัก
- โทรศัพท์
- หมายเลขสำหรับติดต่อ: +593 964 256 286
- ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์
- อีเมล
- สำหรับคำถามทั่วไป: [email protected]
- สำหรับฝ่ายสนับสนุนทางเทคนิค: [email protected]
- แบบฟอร์มติดต่อบนเว็บไซต์
- สามารถส่งข้อความถึงทีมสนับสนุนได้โดยตรงผ่านแบบฟอร์มบนเว็บไซต์
- สื่อสังคมออนไลน์
- Facebook: RoboForex
- Twitter: @RoboForex
- Instagram: @roboforex_official
- YouTube: RoboForex Official
- ที่อยู่สำนักงาน
- 2118 Guava Street, Belama Phase 1, Belize City, Belize
ข้อสังเกต:
- RoboForex ไม่มีบริการสนับสนุนลูกค้าภาษาไทยโดยตรง
- การติดต่อส่วนใหญ่จะเป็นภาษาอังกฤษ
- ระยะเวลาในการตอบกลับอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับช่องทางและความซับซ้อนของปัญหา
สรุป
RoboForex เป็นโบรกเกอร์ที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมมายาวนาน นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเทรดทุกระดับ จุดเด่นของ RoboForex คือการมีแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย สินทรัพย์ให้เลือกเทรดมากมาย และโบนัสที่น่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาข้อดีและข้อเสียของ RoboForex อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจเปิดบัญชี:
ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม:
- การกำกับดูแล: แม้ว่า RoboForex จะได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแล แต่หน่วยงานเหล่านี้อาจไม่เข้มงวดเท่ากับหน่วยงานชั้นนำอย่าง FCA หรือ ASIC นักลงทุนควรตระหนักถึงความเสี่ยงนี้
- ความปลอดภัยของเงินทุน: ควรศึกษานโยบายการคุ้มครองเงินทุนของลูกค้าและมาตรการรักษาความปลอดภัยของ RoboForex ให้ละเอียด
- ค่าธรรมเนียม: แม้ว่า RoboForex จะมีสเปรดต่ำในบางประเภทบัญชี แต่อาจมีค่าธรรมเนียมแฝงอื่นๆ เช่น ค่า Swap ที่สูงในบางคู่สกุลเงิน หรือค่าธรรมเนียมการถอนเงิน
- การสนับสนุนลูกค้า: การไม่มีบริการสนับสนุนภาษาไทยอาจเป็นอุปสรรคสำหรับนักลงทุนไทยบางส่วน
- เลเวอเรจสูง: การเสนอเลเวอเรจสูงถึง 1:2000 อาจเป็นดาบสองคม นักลงทุนควรใช้ความระมัดระวังและบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม
- ความผันผวนของตลาด: มีรายงานเรื่อง Slippage และ Requote ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง นักเทรดควรระมัดระวังในการเทรดช่วงเวลาดังกล่าว
โดยสรุป RoboForex อาจเหมาะสมสำหรับนักลงทุนที่:
- ต้องการเข้าถึงตลาดและสินทรัพย์ที่หลากหลาย
- มีประสบการณ์ในการเทรดและเข้าใจความเสี่ยงของการใช้เลเวอเรจสูง
- ต้องการแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ
- สนใจโบนัสและโปรโมชั่นที่น่าดึงดูด
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมือใหม่หรือผู้ที่ต้องการความมั่นคงสูงอาจพิจารณาโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่เข้มงวดกว่า หรือมีประวัติการดำเนินงานที่ยาวนานและมั่นคงกว่า
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
- RoboForex เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่หรือไม่? RoboForex อาจไม่เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ทั้งหมด เนื่องจากมีเลเวอเรจสูงและอาจมีความซับซ้อนในการใช้งาน อย่างไรก็ตาม หากมือใหม่ศึกษาอย่างรอบคอบและเริ่มต้นด้วยบัญชีทดลอง ก็สามารถใช้งานได้
- RoboForex มีบัญชีทดลอง (Demo Account) หรือไม่? ใช่ RoboForex มีบัญชีทดลองให้ใช้งานฟรี ซึ่งเหมาะสำหรับการทดสอบกลยุทธ์และทำความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มก่อนใช้เงินจริง
- RoboForex รองรับการเทรดผ่านมือถือหรือไม่? ใช่ RoboForex รองรับการเทรดผ่านมือถือทั้งระบบ iOS และ Android ผ่านแอพพลิเคชั่น R MobileTrader และแอพของ MetaTrader
- RoboForex มีค่า Swap หรือไม่? ใช่ RoboForex มีค่า Swap สำหรับการถือครองตำแหน่งข้ามคืน โดยอัตราจะแตกต่างกันไปตามแต่ละคู่สกุลเงินหรือสินทรัพย์
- RoboForex รับ IB (Introducing Broker) หรือไม่? ใช่ RoboForex มีโปรแกรม IB สำหรับผู้ที่ต้องการแนะนำลูกค้าใหม่ โดยจะได้รับค่าคอมมิชชั่นตามเงื่อนไขที่กำหนด
- RoboForex มีการประกันเงินฝากหรือไม่? RoboForex อ้างว่ามีการแยกบัญชีลูกค้าออกจากบัญชีของบริษัท อย่างไรก็ตาม ไม่มีการระบุชัดเจนเกี่ยวกับการประกันเงินฝาก นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงนี้ก่อนตัดสินใจ
- RoboForex เหมาะกับการใช้ EA (Expert Advisor) หรือไม่? ใช่ RoboForex รองรับการใช้งาน EA บนแพลตฟอร์ม MetaTrader และยังมีบริการ VPS ฟรีสำหรับลูกค้าที่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไข ซึ่งเหมาะสำหรับการรัน EA ตลอด 24 ชั่วโมง
- RoboForex มีบริการ Copy Trade หรือไม่? ใช่ RoboForex มีบริการ Copy Trade ผ่านแพลตฟอร์ม CopyFX ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถคัดลอกการเทรดของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้
สุดท้ายนี้ การตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ควรขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งประสบการณ์การเทรด เป้าหมายการลงทุน และความสามารถในการรับความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ทดลองใช้บัญชีทดลองก่อนเปิดบัญชีจริง และเริ่มต้นด้วยเงินลงทุนที่จำกัดเพื่อทดสอบการให้บริการของโบรกเกอร์อย่างระมัดระวัง การเทรด Forex และ CFD มีความเสี่ยงสูง และอาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกราย ควรพิจารณาความเสี่ยงและศึกษาให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน
Dojipedia เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับข้อมูลการลงทุนเกี่ยวกับตลาด Forex มีประสบการณ์การลงทุนในตลาด Forex มา 5 ปี ภายหลังจากที่ศึกษาการวิเคราะห์ทางเทคนิค และได้สนใจทั้ง Elliott Wave, ICT Trading, Smart Money Concept และวิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ จนชำนาญ พบว่า ความรู้ที่ตัวเองศึกษาได้ผล จึงสร้างเว็บขึ้นมาเพื่อเผยแพร่ความรู้ เรามีแผนการเขียนหนังสือ การวิเคราะห์ทางเทคนิค เพื่อแจกฟรี สามารถหาโหลดได้โดยไม่มีวัตถุประสงค์ทางการค้า
ความชำนาญ
- การเลือกโบรกเกอร์ Forex
- Inner Circle Trader
- Smart Money Concept
- Elliott Wave
- Tradingview Technical Analysis
ผลงาน
- รวมรูปแบบกราฟแท่งเทียนญี่ปุ่น โดย Dojipedia
- หนังสือ ทฤษฎี Dow Theory โดย Dojipedia
- หนังสือ สามมหาวิถี โดย Homma เรียบเรียง โดย Dojipedia
- หนังสือ The Martingale โดย Dojipedia
- หนังสือ Inner Circle Trader (ICT Concept) โดย Dojipedia (EN), (TH)