Roboforex ดีไหม รีวิว ข้อมูลโบรกเกอร์อย่างละเอียด 2024

RoboForex เป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 และให้บริการมาอย่างยาวนาน บทความนี้จะรีวิวรายละเอียดต่างๆ ของ RoboForex อย่างครบถ้วน เพื่อให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้ว่าเหมาะกับตนเองหรือไม่

RoboForex คืออะไร

RoboForex เป็นโบรกเกอร์ที่ให้บริการซื้อขาย Forex และ CFD หลากหลายประเภท ก่อตั้งในปี 2009 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศเบลีซ โดยมีจุดเด่นสำคัญ ได้แก่:

Roboforex
Roboforex
  • สเปรดต่ำและค่าคอมมิชชั่นที่แข่งขันได้
  • แพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย
  • ผลิตภัณฑ์การเทรดครอบคลุมหลายประเภทสินทรัพย์
  • โบนัสและโปรโมชั่นที่น่าสนใจ
  • เลเวอเรจสูงถึง 1:2000

ปัจจุบัน RoboForex ให้บริการลูกค้าในกว่า 169 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย

RoboForex ดีไหม

RoboForex เป็นโบรกเกอร์ที่มีทั้งข้อดีและข้อควรพิจารณา เราจะมาดูรายละเอียดกันดังนี้:

Roboforex ข้อดีข้อเสีย
Roboforex ข้อดีข้อเสีย

ข้อดีของ RoboForex

  1. ประสบการณ์ยาวนาน – ดำเนินธุรกิจมากว่า 10 ปี แสดงถึงความมั่นคง
  2. แพลตฟอร์มหลากหลาย – รองรับ MT4, MT5, cTrader และแพลตฟอร์มของตนเอง
  3. สินทรัพย์ให้เทรดครบครัน – มีทั้ง Forex, หุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโตเคอร์เรนซี
  4. เลเวอเรจสูง – สูงสุดถึง 1:2000 ในบางประเภทบัญชี
  5. โบนัสและโปรโมชั่นน่าสนใจ – เช่น โบนัสต้อนรับ $30, โบนัสเงินฝาก 115%
  6. ฝาก-ถอนสะดวก – รองรับการโอนเงินผ่านธนาคารไทย
  7. VPS ฟรี – สำหรับลูกค้าที่มียอดเงินในบัญชีตามเงื่อนไข
  8. ระบบ Copy Trade – ผ่านแพลตฟอร์ม CopyFX
  9. ไม่มีค่าธรรมเนียมฝากเงิน – ช่วยประหยัดต้นทุน
  10. การแข่งขันเทรดประจำเดือน – ชิงรางวัลรวมกว่า $3,000

ข้อเสียของ RoboForex

  1. การกำกับดูแลไม่เข้มงวด – ไม่ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานชั้นนำ Tier 1 เช่น FCA หรือ ASIC
  2. รายงานปัญหา Slippage – โดยเฉพาะในช่วงตลาดผันผวน
  3. ค่า Swap สูง – ในบางคู่สกุลเงินและสินทรัพย์
  4. มีค่าธรรมเนียมถอนเงิน – ในบางวิธีการถอน

รีวิวจาก Trustpilot

RoboForex ได้รับคะแนนรีวิวบน Trustpilot 4.1 จาก 5 ดาว จากรีวิวทั้งหมด 380 รายการ (ข้อมูล ณ สิงหาคม 2024) โดยมีรายละเอียดดังนี้:

roboforex รีวิว
roboforex รีวิว
  • 5 ดาว: 62%
  • 4 ดาว: 17%
  • 3 ดาว: 5%
  • 2 ดาว: 3%
  • 1 ดาว: 13%

ความคิดเห็นส่วนใหญ่เป็นด้านบวก โดยผู้ใช้ชื่นชมเรื่องความรวดเร็วในการฝาก-ถอนเงิน สเปรดต่ำ และแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย

อย่างไรก็ตาม มีรีวิวด้านลบบ้างเกี่ยวกับปัญหาในการถอนเงิน และ Slippage ในช่วงที่ตลาดผันผวน ซึ่งทาง RoboForex ก็ได้ตอบกลับและพยายามแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าในทุกกรณี

RoboForex โบนัสและโปรโมชั่น

RoboForex มีโบนัสและโปรโมชั่นที่น่าสนใจหลายรายการ ดังนี้:

Roboforex โบนัส
Roboforex โบนัส
  1. โบนัสต้อนรับ $30
    • สำหรับลูกค้าใหม่ที่เปิดบัญชี Pro หรือ ProCent
    • ต้องฝากเงินขั้นต่ำ $10 เพื่อรับโบนัส
    • สามารถถอนกำไรที่ได้จากการใช้โบนัสได้
  2. โบนัสเงินฝาก 115%
    • สำหรับบัญชี Pro และ ProCent
    • มีเงื่อนไขในการเทรดเพื่อถอนโบนัส
  3. โบนัสส่วนแบ่งกำไร 60%
    • สำหรับการฝากเงินครั้งแรกและครั้งต่อไปในบัญชี Pro และ ProCent
  4. Cashback สูงสุด 10%
    • คืนเงินตามปริมาณการเทรด
  5. VPS ฟรี
    • สำหรับลูกค้าที่มียอดเงินในบัญชีตามเงื่อนไข
  6. การแข่งขันเทรดประจำเดือน
    • ชิงเงินรางวัลรวมกว่า $3,000

ควรอ่านเงื่อนไขของแต่ละโบนัสและโปรโมชั่นอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจรับ เนื่องจากอาจมีข้อกำหนดในการเทรดหรือถอนเงินที่ต้องปฏิบัติตาม

RoboForex ใบอนุญาต

RoboForex ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานดังต่อไปนี้:

  1. Financial Services Commission (FSC) ของประเทศเบลีซ
    • หมายเลขใบอนุญาต: IFSC/60/271/TS/17
    • ถือเป็นใบอนุญาตระดับ 3 (น่าเชื่อถือต่ำ)
  2. Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC)
    • หมายเลขใบอนุญาต: 191/13 (สำหรับ RoboMarkets Ltd.)
    • ถือเป็นใบอนุญาตระดับ 2 (น่าเชื่อถือปานกลาง)
  3. Financial Services Authority (FSA) ของเซเชลส์
    • หมายเลขใบอนุญาต: SD037
    • ถือเป็นใบอนุญาตระดับ 3 (น่าเชื่อถือต่ำ)

แม้ว่า RoboForex จะได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานเหล่านี้ แต่ควรทราบว่าหน่วยงานกำกับดูแลเหล่านี้อาจไม่ได้มีมาตรฐานการกำกับดูแลที่เข้มงวดเท่ากับหน่วยงานชั้นนำอย่าง FCA ของสหราชอาณาจักร หรือ ASIC ของออสเตรเลีย ดังนั้น นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงนี้ก่อนตัดสินใจเปิดบัญชี

RoboForex แพลตฟอร์ม

RoboForex นำเสนอแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเทรดทุกระดับ ดังนี้:

roboforex แพลตฟอร์ม
roboforex แพลตฟอร์ม
  1. MetaTrader 4 (MT4)
    • แพลตฟอร์มยอดนิยมที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในตลาด Forex
    • มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคมากมาย
    • รองรับการใช้งาน Expert Advisors (EAs)
  2. MetaTrader 5 (MT5)
    • รุ่นที่พัฒนาต่อจาก MT4 มีฟีเจอร์เพิ่มเติมหลายอย่าง
    • รองรับการเทรดสินทรัพย์หลากหลายประเภทมากขึ้น
    • มีเครื่องมือวิเคราะห์และทดสอบกลยุทธ์ที่ทันสมัย
  3. cTrader
    • แพลตฟอร์มที่เน้นความเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขาย
    • เหมาะสำหรับนักเทรด Scalping และ Day Trading
    • มีอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและสวยงาม
  4. R WebTrader
    • แพลตฟอร์มเว็บเทรดที่พัฒนาโดย RoboForex เอง
    • ไม่ต้องดาวน์โหลดหรือติดตั้งโปรแกรม สามารถเทรดผ่านเว็บบราวเซอร์ได้ทันที
    • รองรับการเทรดสินทรัพย์หลากหลายประเภท
  5. R MobileTrader
    • แอปพลิเคชันมือถือสำหรับการเทรดบนสมาร์ทโฟน
    • รองรับทั้งระบบ iOS และ Android
    • มีฟีเจอร์ครบถ้วนเหมือนกับการเทรดบนคอมพิวเตอร์
  6. R StocksTrader
    • แพลตฟอร์มเฉพาะสำหรับการเทรดหุ้นและ ETFs
    • มีสินทรัพย์ให้เลือกเทรดมากกว่า 12,000 รายการ

ทุกแพลตฟอร์มของ RoboForex รองรับการใช้งานทั้งบนคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์มือถือ ทำให้นักเทรดสามารถติดตามและจัดการพอร์ตการลงทุนได้ทุกที่ทุกเวลา

RoboForex ผลิตภัณฑ์เทรด

RoboForex นำเสนอผลิตภัณฑ์การเทรดที่หลากหลาย ครอบคลุมสินทรัพย์หลายประเภท ดังนี้:

Roboforex ผลิตภัณฑ์เทรด
Roboforex ผลิตภัณฑ์เทรด
  1. Forex
    • มีคู่สกุลเงินให้เลือกเทรดมากกว่า 40 คู่
    • รวมทั้งคู่เงินหลัก คู่เงินรอง และคู่เงินแปลก
    • สเปรดเริ่มต้นตั้งแต่ 0 pip ในบัญชี ECN
  2. หุ้น CFDs
    • มี CFDs บนหุ้นมากกว่า 12,000 ตัว จากตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก
    • รวมถึงหุ้นของบริษัทชั้นนำจาก NYSE, NASDAQ, LSE และอื่นๆ
  3. ดัชนีหุ้น
    • สามารถเทรด CFDs บนดัชนีหุ้นสำคัญได้ เช่น S&P 500, NASDAQ, Dow Jones, DAX, FTSE 100
  4. สินค้าโภคภัณฑ์
    • เทรด CFDs บนสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ เช่น ทองคำ, น้ำมัน, เงิน, แพลทินัม
    • มีทั้งสัญญา Spot และ Futures
  5. คริปโตเคอร์เรนซี
    • มีคู่เทรด Crypto CFDs มากกว่า 30 คู่
    • รวมถึง Bitcoin, Ethereum, Litecoin และ Ripple
  6. ETFs
    • สามารถเทรด CFDs บน ETFs ได้หลากหลาย
    • ครอบคลุม ETFs ที่ติดตามดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, และกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ
  7. พันธบัตรรัฐบาล
    • เทรด CFDs บนพันธบัตรรัฐบาลของประเทศต่างๆ ได้

ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เทรดทำให้นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงและหาโอกาสในการทำกำไรได้จากหลายตลาด อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาและทำความเข้าใจกับแต่ละผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดก่อนเริ่มเทรด เนื่องจากแต่ละประเภทมีความเสี่ยงและลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน

RoboForex ประเภทบัญชี

RoboForex นำเสนอประเภทบัญชีที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเทรดทุกระดับ ดังนี้:

Roboforex ประเภทบัญชี
Roboforex ประเภทบัญชี
  1. บัญชี Pro
    • เหมาะสำหรับนักเทรดทั่วไปและผู้เริ่มต้น
    • เงินฝากขั้นต่ำ: $10
    • สเปรดเริ่มต้นที่ 1.3 pips
    • เลเวอเรจสูงสุด 1:2000
    • รองรับการรับโบนัสและโปรโมชั่นต่างๆ
  2. บัญชี ECN
    • เหมาะสำหรับนักเทรดมืออาชีพที่ต้องการสเปรดต่ำและการดำเนินการที่รวดเร็ว
    • เงินฝากขั้นต่ำ: $10
    • สเปรดเริ่มต้นที่ 0 pips + ค่าคอมมิชชั่น
    • เลเวอเรจสูงสุด 1:500
    • การดำเนินการคำสั่งซื้อขายที่รวดเร็ว
  3. บัญชี Prime
    • เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการเงื่อนไขการเทรดที่ดีที่สุด
    • เงินฝากขั้นต่ำ: $10
    • สเปรดเริ่มต้นที่ 0 pips
    • เลเวอเรจสูงสุด 1:300
    • ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
  4. บัญชี ProCent
    • เหมาะสำหรับการทดสอบกลยุทธ์ด้วยเงินจริงจำนวนน้อย
    • เงินฝากขั้นต่ำ: $10
    • สเปรดเริ่มต้นที่ 1.3 pips
    • เลเวอเรจสูงสุด 1:2000
    • ขนาดล็อตเริ่มต้นที่ 0.01 lot
  5. บัญชี R StocksTrader
    • เหมาะสำหรับการเทรดหุ้นและ ETFs
    • เงินฝากขั้นต่ำ: $100
    • สเปรดขึ้นอยู่กับสภาพตลาด
    • เลเวอเรจสูงสุด 1:20
    • สามารถซื้อหุ้นจริงได้

นักลงทุนควรพิจารณาเลือกประเภทบัญชีที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรด เป้าหมายการลงทุน และประสบการณ์ของตนเอง โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น เงินทุน ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และประเภทสินทรัพย์ที่ต้องการเทรด

RoboForex ฝากเงิน ถอนเงิน

RoboForex มีช่องทางการฝากและถอนเงินที่หลากหลาย รองรับความต้องการของนักลงทุนในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย ดังนี้:

Roboforex ฝากถอนเงิน
Roboforex ฝากถอนเงิน

วิธีการฝากเงิน:

  1. บัตรเครดิต/เดบิต (Visa, Mastercard, UnionPay)
  2. การโอนเงินผ่านธนาคาร (รวมถึงธนาคารไทย)
  3. E-wallets (Skrill, Neteller, Perfect Money, WebMoney)
  4. การโอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ
  5. คริปโตเคอร์เรนซี (Bitcoin, Ethereum, Tether)

วิธีการถอนเงิน:

  1. การโอนเงินผ่านธนาคาร
  2. E-wallets
  3. บัตรเครดิต/เดบิต
  4. คริปโตเคอร์เรนซี

ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการฝาก-ถอนเงิน:

  • ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากเงิน
  • การถอนเงินบางวิธีอาจมีค่าธรรมเนียม
  • เวลาในการดำเนินการถอนเงินโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1-2 วันทำการ
  • มีระบบถอนเงินอัตโนมัติ สามารถถอนได้แม้ในวันหยุด
  • รองรับการฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทย 4 แห่ง ได้แก่ กสิกรไทย, ไทยพาณิชย์, กรุงเทพ, และกรุงไทย

ข้อควรระวัง:

  • ตรวจสอบเงื่อนไขและข้อกำหนดในการฝาก-ถอนเงินของแต่ละวิธีให้ดีก่อนทำรายการ
  • ควรใช้บัญชีธนาคารหรือวิธีการชำระเงินที่เป็นชื่อเดียวกับบัญชีเทรดเพื่อป้องกันปัญหาในการถอนเงิน
  • หากมีปัญหาในการฝากหรือถอนเงิน ควรติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ RoboForex โดยตรง

RoboForex ติดต่อ

RoboForex มีช่องทางการติดต่อและบริการสนับสนุนลูกค้าหลายรูปแบบ ดังนี้:

Roboforex ติดต่อ
Roboforex ติดต่อ
  1. Live Chat
    • บริการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์
    • สามารถเข้าถึงได้จากหน้าเว็บไซต์หลัก
  2. โทรศัพท์
    • หมายเลขสำหรับติดต่อ: +593 964 256 286
    • ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์
  3. อีเมล
  4. แบบฟอร์มติดต่อบนเว็บไซต์
    • สามารถส่งข้อความถึงทีมสนับสนุนได้โดยตรงผ่านแบบฟอร์มบนเว็บไซต์
  5. สื่อสังคมออนไลน์
    • Facebook: RoboForex
    • Twitter: @RoboForex
    • Instagram: @roboforex_official
    • YouTube: RoboForex Official
  6. ที่อยู่สำนักงาน
    • 2118 Guava Street, Belama Phase 1, Belize City, Belize

ข้อสังเกต:

  • RoboForex ไม่มีบริการสนับสนุนลูกค้าภาษาไทยโดยตรง
  • การติดต่อส่วนใหญ่จะเป็นภาษาอังกฤษ
  • ระยะเวลาในการตอบกลับอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับช่องทางและความซับซ้อนของปัญหา

สรุป

RoboForex เป็นโบรกเกอร์ที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมมายาวนาน นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเทรดทุกระดับ จุดเด่นของ RoboForex คือการมีแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย สินทรัพย์ให้เลือกเทรดมากมาย และโบนัสที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาข้อดีและข้อเสียของ RoboForex อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจเปิดบัญชี:

ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม:

  1. การกำกับดูแล: แม้ว่า RoboForex จะได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแล แต่หน่วยงานเหล่านี้อาจไม่เข้มงวดเท่ากับหน่วยงานชั้นนำอย่าง FCA หรือ ASIC นักลงทุนควรตระหนักถึงความเสี่ยงนี้
  2. ความปลอดภัยของเงินทุน: ควรศึกษานโยบายการคุ้มครองเงินทุนของลูกค้าและมาตรการรักษาความปลอดภัยของ RoboForex ให้ละเอียด
  3. ค่าธรรมเนียม: แม้ว่า RoboForex จะมีสเปรดต่ำในบางประเภทบัญชี แต่อาจมีค่าธรรมเนียมแฝงอื่นๆ เช่น ค่า Swap ที่สูงในบางคู่สกุลเงิน หรือค่าธรรมเนียมการถอนเงิน
  4. การสนับสนุนลูกค้า: การไม่มีบริการสนับสนุนภาษาไทยอาจเป็นอุปสรรคสำหรับนักลงทุนไทยบางส่วน
  5. เลเวอเรจสูง: การเสนอเลเวอเรจสูงถึง 1:2000 อาจเป็นดาบสองคม นักลงทุนควรใช้ความระมัดระวังและบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม
  6. ความผันผวนของตลาด: มีรายงานเรื่อง Slippage และ Requote ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง นักเทรดควรระมัดระวังในการเทรดช่วงเวลาดังกล่าว

โดยสรุป RoboForex อาจเหมาะสมสำหรับนักลงทุนที่:

  • ต้องการเข้าถึงตลาดและสินทรัพย์ที่หลากหลาย
  • มีประสบการณ์ในการเทรดและเข้าใจความเสี่ยงของการใช้เลเวอเรจสูง
  • ต้องการแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ
  • สนใจโบนัสและโปรโมชั่นที่น่าดึงดูด

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมือใหม่หรือผู้ที่ต้องการความมั่นคงสูงอาจพิจารณาโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่เข้มงวดกว่า หรือมีประวัติการดำเนินงานที่ยาวนานและมั่นคงกว่า

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

  1. RoboForex เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่หรือไม่? RoboForex อาจไม่เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ทั้งหมด เนื่องจากมีเลเวอเรจสูงและอาจมีความซับซ้อนในการใช้งาน อย่างไรก็ตาม หากมือใหม่ศึกษาอย่างรอบคอบและเริ่มต้นด้วยบัญชีทดลอง ก็สามารถใช้งานได้
  2. RoboForex มีบัญชีทดลอง (Demo Account) หรือไม่? ใช่ RoboForex มีบัญชีทดลองให้ใช้งานฟรี ซึ่งเหมาะสำหรับการทดสอบกลยุทธ์และทำความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มก่อนใช้เงินจริง
  3. RoboForex รองรับการเทรดผ่านมือถือหรือไม่? ใช่ RoboForex รองรับการเทรดผ่านมือถือทั้งระบบ iOS และ Android ผ่านแอพพลิเคชั่น R MobileTrader และแอพของ MetaTrader
  4. RoboForex มีค่า Swap หรือไม่? ใช่ RoboForex มีค่า Swap สำหรับการถือครองตำแหน่งข้ามคืน โดยอัตราจะแตกต่างกันไปตามแต่ละคู่สกุลเงินหรือสินทรัพย์
  5. RoboForex รับ IB (Introducing Broker) หรือไม่? ใช่ RoboForex มีโปรแกรม IB สำหรับผู้ที่ต้องการแนะนำลูกค้าใหม่ โดยจะได้รับค่าคอมมิชชั่นตามเงื่อนไขที่กำหนด
  6. RoboForex มีการประกันเงินฝากหรือไม่? RoboForex อ้างว่ามีการแยกบัญชีลูกค้าออกจากบัญชีของบริษัท อย่างไรก็ตาม ไม่มีการระบุชัดเจนเกี่ยวกับการประกันเงินฝาก นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงนี้ก่อนตัดสินใจ
  7. RoboForex เหมาะกับการใช้ EA (Expert Advisor) หรือไม่? ใช่ RoboForex รองรับการใช้งาน EA บนแพลตฟอร์ม MetaTrader และยังมีบริการ VPS ฟรีสำหรับลูกค้าที่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไข ซึ่งเหมาะสำหรับการรัน EA ตลอด 24 ชั่วโมง
  8. RoboForex มีบริการ Copy Trade หรือไม่? ใช่ RoboForex มีบริการ Copy Trade ผ่านแพลตฟอร์ม CopyFX ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถคัดลอกการเทรดของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้

สุดท้ายนี้ การตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ควรขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งประสบการณ์การเทรด เป้าหมายการลงทุน และความสามารถในการรับความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ทดลองใช้บัญชีทดลองก่อนเปิดบัญชีจริง และเริ่มต้นด้วยเงินลงทุนที่จำกัดเพื่อทดสอบการให้บริการของโบรกเกอร์อย่างระมัดระวัง การเทรด Forex และ CFD มีความเสี่ยงสูง และอาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกราย ควรพิจารณาความเสี่ยงและศึกษาให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน

Dojipedia removebg preview

Dojipedia เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับข้อมูลการลงทุนเกี่ยวกับตลาด Forex มีประสบการณ์การลงทุนในตลาด Forex มา 5 ปี ภายหลังจากที่ศึกษาการวิเคราะห์ทางเทคนิค และได้สนใจทั้ง Elliott Wave , ICT Trading , Smart Money Concept และ วิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ จนชำนาญ พบว่า ความรู้ที่ตัวเองศึกษาได้ผล จึงสร้างเว็บขึ้นมาเพื่อเผยแพร่ความรู้ เรามีแผนการเขียนหนังสือ การวิเคราะห์ทางเทคนิค เพื่อแจกฟรี สามารถหาโหลดได้โดยไม่มีวัตถุประสงค์ทางการค้า

ความชำนาญ

  • การเลือกโบรกเกอร์ Forex
  • Inner Circle Trader
  • Smart Money Concept
  • Elliott Wave
  • Tradingview Technical Analysis

ผลงาน