IC Markets ดีไหม รีวิว ข้อมูลโบรกเกอร์อย่างละเอียด 2024

หากคุณกำลังมองหาโบรกเกอร์ Forex ที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือ IC Markets อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณ ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับ IC Markets อย่างละเอียด พร้อมวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียต่างๆ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าโบรกเกอร์นี้เหมาะกับคุณหรือไม่

IC Markets คืออะไร

IC Markets เป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 ที่ประเทศออสเตรเลีย โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่นครซิดนีย์ IC Markets ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ชั้นนำของโลก ด้วยปริมาณการซื้อขายรายวันมากกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

จุดเด่นของ IC Markets คือการเป็นโบรกเกอร์แบบ True ECN (Electronic Communication Network) ซึ่งหมายถึงการส่งคำสั่งซื้อขายเข้าสู่ตลาดโดยตรง ไม่ผ่านดีลเลอร์หรือ market maker ทำให้ได้ราคาที่ดีที่สุดและการดำเนินการที่รวดเร็ว

IC Markets ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์หลากหลายประเภท ได้แก่:

• Forex
• หุ้น
• ดัชนีหุ้น
• สินค้าโภคภัณฑ์
• พันธบัตร
• คริปโตเคอร์เรนซี

ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปีในอุตสาหกรรม Forex IC Markets ได้รับความไว้วางใจจากเทรดเดอร์ทั่วโลก และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

IC Markets ดีไหม

เพื่อตอบคำถามนี้ เราจะมาวิเคราะห์ข้อดีและข้อเสียของ IC Markets กัน:

ข้อดีของ IC Markets

1. ค่า Spread ต่ำมาก: IC Markets มีค่า Spread ที่ต่ำมาก โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 0.1 pips สำหรับคู่เงิน EUR/USD ในบัญชี Raw Spread ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม
2. เทคโนโลยี True ECN: การเป็นโบรกเกอร์ True ECN ช่วยให้ได้ราคาที่ดีที่สุดและการดำเนินการที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์ Scalping หรือ High-Frequency Trading
3. ความเสถียรของระบบ: IC Markets ใช้เซิร์ฟเวอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้การส่งคำสั่งซื้อขายเป็นไปอย่างรวดเร็วและเสถียร แม้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง
4. หลากหลายผลิตภัณฑ์: นอกจาก Forex แล้ว IC Markets ยังให้บริการซื้อขาย CFD ของหุ้น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโตเคอร์เรนซี ทำให้เทรดเดอร์สามารถกระจายความเสี่ยงได้
5. แพลตฟอร์มหลากหลาย: รองรับทั้ง MetaTrader 4, MetaTrader 5 และ cTrader ทำให้เทรดเดอร์มีตัวเลือกในการใช้งาน
6. Leverage สูง: ให้ Leverage สูงสุดถึง 1:500 สำหรับ Forex ทำให้เทรดเดอร์สามารถเปิดพอร์ตขนาดใหญ่ได้ด้วยเงินทุนที่จำกัด
7. ฝาก-ถอนสะดวก: รองรับการฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทยได้โดยตรง ทำให้สะดวกสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย
8. การศึกษาและวิเคราะห์: มีบทความ วิดีโอ และเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคให้กับลูกค้า ช่วยในการพัฒนาความรู้และทักษะการเทรด
9. ความน่าเชื่อถือสูง: IC Markets ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำหลายแห่ง เช่น ASIC ของออสเตรเลีย ทำให้มีความน่าเชื่อถือสูง

ข้อเสียของ IC Markets

1. ไม่มีโบนัสหรือโปรโมชั่น: IC Markets ไม่มีนโยบายให้โบนัสหรือโปรโมชั่นแก่ลูกค้า ซึ่งอาจเป็นข้อเสียเปรียบเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นที่มีโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้า
2. ค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งาน: หากบัญชีไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นเวลา 6 เดือน จะมีค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งาน $15 ต่อเดือน
3. ไม่รองรับ PayPal: IC Markets ไม่รองรับการฝาก-ถอนผ่าน PayPal ซึ่งเป็นช่องทางที่สะดวกสำหรับเทรดเดอร์บางคน
4. การสนับสนุนภาษาไทยจำกัด: แม้จะมีเว็บไซต์ภาษาไทย แต่การสนับสนุนลูกค้าภาษาไทยยังมีจำกัด อาจเป็นอุปสรรคสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทยที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษ
5. ไม่มีบัญชี Cent: IC Markets ไม่มีบัญชีแบบ Cent ซึ่งเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการทดลองเทรดด้วยเงินจริงแต่ขนาดเล็ก
6. ข้อจำกัดด้านประเทศ: บางประเทศไม่สามารถใช้บริการของ IC Markets ได้ เช่น สหรัฐอเมริกา

รีวิวจาก Trustpilot

เพื่อให้มุมมองที่หลากหลาย เรามาดูรีวิวจากลูกค้าจริงบน Trustpilot กัน IC Markets ได้รับคะแนนรวม 4.8 จาก 5 ดาว บน Trustpilot จากรีวิวกว่า 37,000 รายการ ซึ่งถือว่าเป็นคะแนนที่สูงมาก โดยมีรายละเอียดดังนี้

• 5 ดาว: 91%
• 4 ดาว: 5%
• 3 ดาว: <1%
• 2 ดาว: <1%
• 1 ดาว: 3%

ตัวอย่างความคิดเห็นเชิงบวก:

“IC Markets เป็นโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดในโลก ไว้ใจได้ 100% ในทุกด้าน บริการลูกค้ายอดเยี่ยม การถอนเงินรวดเร็ว โดยเฉพาะผ่าน PayPal ข้อมูลเรียลไทม์แม่นยำ” – Mike Holand

“IC Markets มีบริการลูกค้า 24/7 ที่ยอดเยี่ยม แก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ระดับการตรวจสอบเพื่อปกป้องลูกค้าน่าประทับใจมาก” – Paul Azanor

ตัวอย่างความคิดเห็นเชิงลบ:

“ผิดหวังมากกับทีมสนับสนุน แทบไม่ตอบหลังจากส่งคำขอ ทั้งแชทสดและระบบอัตโนมัติไม่ค่อยช่วยอะไร หลังจากส่งเอกสารทั้งหมดและได้รับการอนุมัติแล้ว ยังคงรอบัญชีบริษัท ผิดหวังมาก ล่าช้าโดยไม่จำเป็น” – Andile Myeni

จากรีวิวบน Trustpilot จะเห็นได้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่มีความพึงพอใจกับ IC Markets โดยเฉพาะในเรื่องของความน่าเชื่อถือ ความเร็วในการดำเนินการ และคุณภาพของแพลตฟอร์ม อย่างไรก็ตาม ยังมีลูกค้าบางส่วนที่ไม่พอใจกับการบริการลูกค้าและความล่าช้าในบางกระบวนการ

IC Markets โบนัสและโปรโมชั่น

IC Markets ไม่มีนโยบายในการให้โบนัสหรือโปรโมชั่นแก่ลูกค้า โดยทางบริษัทให้เหตุผลว่าโบนัสเป็นเพียงกลยุทธ์ทางการตลาดที่ไม่ได้สะท้อนถึงคุณภาพของบริการจริง ๆ

อย่างไรก็ตาม IC Markets มีโปรแกรมพิเศษสำหรับเทรดเดอร์ที่มีปริมาณการเทรดสูง เช่น:

1. Raw Trader Plus: โปรแกรมสำหรับเทรดเดอร์ที่มีปริมาณการเทรดตั้งแต่ 100 ล็อตขึ้นไปต่อเดือน โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษ เช่น ค่าคอมมิชชั่นที่ต่ำลง และการสนับสนุนลูกค้าแบบพิเศษ
2. VPS ฟรี: IC Markets ให้บริการ VPS (Virtual Private Server) ฟรีสำหรับลูกค้าที่มีปริมาณการเทรดตั้งแต่ 15 ล็อตขึ้นไปต่อเดือน ช่วยให้การเทรดมีความเสถียรและรวดเร็วยิ่งขึ้น

แม้จะไม่มีโบนัสเงินฝาก แต่ IC Markets มุ่งเน้นที่การให้บริการคุณภาพสูงและค่าธรรมเนียมที่ต่ำ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์มากกว่าในระยะยาวสำหรับเทรดเดอร์

IC Markets ใบอนุญาต

ความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์เป็นสิ่งสำคัญมากในการเลือกโบรกเกอร์ IC Markets ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำหลายแห่ง ได้แก่:

1. Australian Securities and Investment Commission (ASIC)
   • เลขที่ใบอนุญาต: 335692
   • ชื่อจดทะเบียน: International Capital Markets Pty Ltd
   • ASIC เป็นหน่วยงานกำกับดูแลที่มีมาตรฐานสูงและเข้มงวด ถือเป็นใบอนุญาตระดับ 1 (น่าเชื่อถือสูง)
2. Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC)
   • เลขที่ใบอนุญาต: 362/18
   • ชื่อจดทะเบียน: IC Markets (EU) Ltd
   • CySEC เป็นหน่วยงานกำกับดูแลของประเทศในสหภาพยุโรป ถือเป็นใบอนุญาตระดับ 2 (น่าเชื่อถือปานกลาง)
3. Financial Services Authority (FSA) Seychelles
   • เลขที่ใบอนุญาต: SD018
   • ชื่อจดทะเบียน: Raw Trading Ltd
   • FSA เป็นหน่วยงานกำกับดูแลของประเทศเซเชลส์ ถือเป็นใบอนุญาตระดับ 3 (น่าเชื่อถือต่ำ)
4. Securities Commission of The Bahamas (SCB)
   • เลขที่ใบอนุญาต: SIA-F214
   • ชื่อจดทะเบียน: IC Markets Ltd
   • SCB เป็นหน่วยงานกำกับดูแลของประเทศบาฮามาส ถือเป็นใบอนุญาตระดับ 3 (น่าเชื่อถือต่ำ)

การที่ IC Markets ได้รับการกำกับดูแลจากหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะ ASIC ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีมาตรฐานสูง แสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือและความมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ IC Markets ยังมีการแยกบัญชีเงินของลูกค้า (Segregated Client Funds) โดยเก็บไว้ในบัญชีแยกต่างหากกับธนาคารชั้นนำ เช่น Westpac Banking Corporation และ National Australia Bank ซึ่งเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับเงินของลูกค้า

IC Markets แพลตฟอร์ม

IC Markets รองรับแพลตฟอร์มการเทรดหลายรูปแบบ เพื่อตอบสนองความต้องการของเทรดเดอร์ที่หลากหลาย:

1. MetaTrader 4 (MT4)
   • แพลตฟอร์มยอดนิยมที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการ Forex
   • มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคมากมาย
   • รองรับการใช้งาน Expert Advisors (EAs) สำหรับการเทรดอัตโนมัติ
   • ใช้งานได้ทั้งบน Windows, Mac, iOS และ Android
2. MetaTrader 5 (MT5)
   • รุ่นที่พัฒนาต่อจาก MT4 มีฟีเจอร์เพิ่มเติมหลายอย่าง
   • รองรับการเทรด CFD ของหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ได้ดีกว่า MT4
   • มี Time Frame และ Indicator มากกว่า MT4
   • ใช้งานได้ทั้งบน Windows, Mac, iOS และ Android
3. cTrader
   • แพลตฟอร์มที่ออกแบบมาสำหรับ ECN โดยเฉพาะ
   • มีอินเทอร์เฟซที่ทันสมัยและใช้งานง่าย
   • รองรับการเทรดอัตโนมัติด้วยภาษา C#
   • มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคขั้นสูง
   • ใช้งานได้ทั้งบน Windows, Mac, iOS และ Android
4. WebTrader
   • แพลตฟอร์มการเทรดบนเว็บไซต์ ไม่ต้องดาวน์โหลดโปรแกรม
   • ใช้งานได้บนทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
   • มีฟังก์ชันพื้นฐานครบถ้วนสำหรับการเทรด
5. TradingView
   • แพลตฟอร์มวิเคราะห์กราฟยอดนิยม
   • มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่หลากหลายและทันสมัย
   • สามารถเชื่อมต่อกับบัญชี IC Markets เพื่อส่งคำสั่งซื้อขายได้โดยตรง

นอกจากนี้ IC Markets ยังรองรับการใช้งาน VPS (Virtual Private Server) ซึ่งช่วยให้การเทรดอัตโนมัติมีความเสถียรและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยให้บริการ VPS ฟรีสำหรับลูกค้าที่มีปริมาณการเทรดตั้งแต่ 15 ล็อตขึ้นไปต่อเดือน

IC Markets ผลิตภัณฑ์เทรด

IC Markets มีผลิตภัณฑ์การเทรดที่หลากหลาย ครอบคลุมสินทรัพย์หลายประเภท:

1. Forex
   • มีคู่เงินให้เลือกเทรดมากกว่า 61 คู่
   • รวมทั้งคู่เงินหลัก คู่เงินรอง และคู่เงินแปลก
   • Leverage สูงสุด 1:1000
2. หุ้น CFD
   • สามารถเทรด CFD ของหุ้นมากกว่า 2,100 ตัวจากตลาดหุ้นทั่วโลก
   • รวมหุ้นยักษ์ใหญ่อย่าง Apple, Google, Amazon เป็นต้น
   • Leverage สูงสุด 1:20
3. ดัชนีหุ้น
   • มีดัชนีหุ้นให้เลือกเทรดมากกว่า 25 ดัชนี
   • รวมดัชนีสำคัญอย่าง S&P 500, NASDAQ, DAX เป็นต้น
   • Leverage สูงสุด 1:200
4. สินค้าโภคภัณฑ์
   • มีสินค้าโภคภัณฑ์ให้เลือกเทรดมากกว่า 20 รายการ
   • รวมทั้งทองคำ น้ำมัน และโลหะมีค่าอื่นๆ
   • Leverage สูงสุด 1:100
5. พันธบัตร
   • สามารถเทรด CFD ของพันธบัตรรัฐบาลจากประเทศต่างๆ
   • มีพันธบัตรให้เลือกเทรด 9 รายการ
   • Leverage สูงสุด 1:100
6. คริปโตเคอร์เรนซี
   • มีคริปโตเคอร์เรนซีให้เลือกเทรดมากกว่า 20 เหรียญ
   • รวมทั้ง Bitcoin, Ethereum, Ripple เป็นต้น
   • Leverage สูงสุด 1:5

ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์การเทรดทำให้ IC Markets เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงหรือมีกลยุทธ์การเทรดที่หลากหลาย

IC Markets ประเภทบัญชี

IC Markets มีประเภทบัญชีให้เลือก 3 แบบ ดังนี้:

1. บัญชี Standard
   • เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ทั่วไปและมือใหม่
   • Spread เริ่มต้นที่ 0.8 pips สำหรับ EUR/USD
   • ไม่มีค่าคอมมิชชัน
   • ใช้ได้กับ MetaTrader 4 และ 5
   • เงินฝากขั้นต่ำ $10
2. บัญชี Raw Spread (MetaTrader)
   • เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการ Spread ต่ำที่สุด
   • Spread เริ่มต้นที่ 0.0 pips สำหรับ EUR/USD
   • มีค่าคอมมิชชัน $3.5 ต่อล็อต ($7 ต่อรอบการเทรด)
   • ใช้ได้กับ MetaTrader 4 และ 5
   • เงินฝากขั้นต่ำ $10
3. บัญชี Raw Spread (cTrader)
   • เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ชอบแพลตฟอร์ม cTrader
   • Spread เริ่มต้นที่ 0.0 pips สำหรับ EUR/USD
   • มีค่าคอมมิชชัน $3 ต่อล็อต ($6 ต่อรอบการเทรด)
   • ใช้ได้กับ cTrader เท่านั้น
   • เงินฝากขั้นต่ำ $10

ทุกประเภทบัญชีมี Leverage สูงสุดที่ 1:500 สำหรับ Forex และสามารถเปิดบัญชี Demo ได้ฟรีเพื่อทดลองใช้งาน

IC Markets ฝากเงิน ถอนเงิน

IC Markets มีช่องทางการฝากและถอนเงินที่หลากหลาย รองรับเทรดเดอร์จากทั่วโลก:

วิธีการฝากเงิน:

1. บัตรเครดิต/เดบิต: Visa, Mastercard
2. โอนเงินผ่านธนาคาร: รองรับธนาคารหลักในประเทศไทย
3. e-Wallets: Skrill, Neteller, FasaPay
4. Cryptocurrency: Bitcoin, Ethereum, Tether
5. ระบบชำระเงินท้องถิ่น: สำหรับบางประเทศ

วิธีการถอนเงิน:

1. โอนเงินผ่านธนาคาร: รองรับธนาคารหลักในประเทศไทย
2. e-Wallets: Skrill, Neteller, FasaPay
3. Cryptocurrency: Bitcoin, Ethereum, Tether

ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการฝากและถอนเงิน:

• ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากเงิน
• ค่าธรรมเนียมการถอนเงินขึ้นอยู่กับวิธีการถอน (บางวิธีอาจมีค่าธรรมเนียม)
• เงินฝากขั้นต่ำ $10 หรือเทียบเท่า
• ไม่มีขั้นต่ำในการถอนเงิน
• การฝากเงินส่วนใหญ่จะเข้าบัญชีทันที
• การถอนเงินโดยทั่วไปใช้เวลา 1-3 วันทำการ

สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย IC Markets รองรับการฝากและถอนเงินผ่านธนาคารไทยโดยตรง ซึ่งสะดวกและรวดเร็ว โดยสามารถทำรายการผ่านระบบ Internet Banking หรือ Mobile Banking ได้

นอกจากนี้ IC Markets ยังมีระบบ QR Code สำหรับการฝากเงิน ซึ่งรองรับทุกธนาคารในประเทศไทย ทำให้การฝากเงินเป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากขึ้น

IC Markets ติดต่อ

IC Markets มีช่องทางการติดต่อหลายรูปแบบเพื่อให้ลูกค้าสามารถรับความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง:

1. Live Chat: บริการแชทสดตลอด 24/7 สามารถเข้าถึงได้จากเว็บไซต์หลัก
2. อีเมล: [email protected] สำหรับคำถามทั่วไป
3. โทรศัพท์: มีหมายเลขโทรศัพท์สำหรับหลายประเทศ รวมถึงไทย
   • หมายเลขโทรฟรีสำหรับไทย: 1800011956
4. สำนักงาน: มีสำนักงานในหลายประเทศ แต่สำนักงานใหญ่อยู่ที่: Level 4, 50 Carrington Street, Sydney NSW 2000, Australia

สำหรับลูกค้าชาวไทย IC Markets มีทีมงานที่พูดภาษาไทยคอยให้บริการ แต่อาจไม่ครอบคลุม 24 ชั่วโมง ดังนั้นในบางช่วงเวลาอาจต้องติดต่อผ่านภาษาอังกฤษ

นอกจากนี้ IC Markets ยังมีช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Facebook, Twitter, Instagram และ LinkedIn ซึ่งลูกค้าสามารถติดตามข่าวสารและอัพเดทล่าสุดได้

สรุป

IC Markets เป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมทั่วโลก ด้วยจุดเด่นหลายประการ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเทรดเดอร์ทั้งมือใหม่และมืออาชีพ

ข้อดีหลักของ IC Markets:

• เป็นโบรกเกอร์ True ECN ที่ให้ราคาและการดำเนินการที่รวดเร็ว
• มี Spread ต่ำมาก โดยเฉพาะในบัญชี Raw Spread
• รองรับหลายแพลตฟอร์มการเทรด ทั้ง MT4, MT5 และ cTrader
• มีผลิตภัณฑ์การเทรดที่หลากหลาย
• ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำหลายแห่ง
• รองรับการฝากถอนผ่านธนาคารไทยได้โดยตรง

ข้อเสียที่ควรพิจารณา:

• ไม่มีโบนัสหรือโปรโมชั่น
• การสนับสนุนภาษาไทยอาจไม่ครอบคลุม 24 ชั่วโมง
• ไม่มีบัญชี Cent สำหรับผู้เริ่มต้น

โดยรวมแล้ว IC Markets เป็นโบรกเกอร์ที่มีคุณภาพสูงและน่าเชื่อถือ เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการ Spread ต่ำ การดำเนินการที่รวดเร็ว และมีความหลากหลายในการเทรด อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจเปิดบัญชีจริง ควรทดลองใช้บัญชี Demo ก่อนเพื่อทดสอบคุณภาพของการให้บริการและความเหมาะสมกับรูปแบบการเทรดของคุณ

สุดท้ายนี้ การเทรด Forex และ CFD มีความเสี่ยงสูง และอาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกคน ควรศึกษาและทำความเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดก่อนเริ่มเทรด และไม่ควรลงทุนเงินที่คุณไม่สามารถสูญเสียได้