HFM ข้อเสีย ที่ควรรู้ก่อนเปิดบัญชี! [อัพเดต 2025]

การเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะส่งผลต่อประสบการณ์การเทรดของคุณ HFM (HF Markets) เป็นโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงในวงการ Forex มาตั้งแต่ปี 2010 (เดิมใช้ชื่อ HotForex) แต่เช่นเดียวกับโบรกเกอร์ทุกราย HFM ก็มีข้อเสียที่นักลงทุนควรทราบก่อนตัดสินใจเปิดบัญชี

บทความนี้จะวิเคราะห์ ข้อเสียของ HFM อย่างละเอียดและตรงไปตรงมา จากการรวบรวมความคิดเห็นของผู้ใช้งานจริง เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจอย่างรอบคอบว่าโบรกเกอร์นี้เหมาะกับคุณหรือไม่

สารบัญ

1. ค่า Spread สูงและไม่คงที่
2. ปัญหาเรื่องการถอนเงิน
3. Slippage และ Requote ที่พบบ่อย
4. การปิดบัญชีโดยไม่แจ้งล่วงหน้า
5. ปัญหาการส่งคำสั่งซื้อขายล่าช้า
6. ฝ่ายบริการลูกค้าที่มีข้อจำกัด
7. เงื่อนไขโบนัสที่ซับซ้อน
8. ค่าธรรมเนียมที่ไม่ได้เปิดเผยอย่างชัดเจน
9. ข้อจำกัดด้านการสื่อสารและความล่าช้าในการตอบสนอง
10. สรุป: HFM เหมาะกับใคร?

เปิดบัญชีกับ HFM

ค่า Spread สูงและไม่คงที่

HFM มีค่า Spread ที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน โดยเฉพาะในบัญชีประเภท Premium ที่มีค่า Spread เริ่มต้นที่ 1.2 pips สำหรับคู่สกุลเงิน EUR/USD ซึ่งถือว่าสูงในยุคปัจจุบัน

จากข้อมูลที่รวบรวมพบว่า ค่า Spread เฉลี่ยของคู่เงินหลักมีดังนี้:

• EURUSD: สเปรดเฉลี่ย 1.7 pips (17.6 points / 1 lot)
• GBPUSD: สเปรดเฉลี่ย 2.0 pips (20.0 points / 1 lot)
• USDJPY: สเปรดเฉลี่ย 2.4 pips (24.0 points / 1 lot)
• USDCAD: สเปรดเฉลี่ย 2.5 pips (25.2 points / 1 lot)
• AUDUSD: สเปรดเฉลี่ย 1.8 pips (18.0 points / 1 lot)

นอกจากนี้ หลายผู้ใช้งานยังรายงานว่า ค่า Spread มีการถ่างกว้างมากในช่วงที่มีข่าวสำคัญหรือช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการขาดทุนโดยไม่คาดคิดได้

“ค่า Spread สูงและถ่างมากจากโบรกเกอร์รายอื่นที่เคยใช้งานมา” – รีวิวจากผู้ใช้งานจริงบน Trustpilot

แม้ HFM จะมีบัญชี ZERO ที่โฆษณาว่ามี Spread เริ่มต้นที่ 0 pips แต่ก็มีค่าคอมมิชชันที่ $6 ต่อล็อตสำหรับ Forex และ $14 ต่อล็อตสำหรับทองคำ ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วอาจไม่ได้มีความคุ้มค่ามากนักเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

เปิดบัญชีกับ HFM

ปัญหาเรื่องการถอนเงิน

ปัญหาที่พบบ่อยที่สุดจากผู้ใช้งาน HFM คือการถอนเงินที่ล่าช้าหรือถูกปฏิเสธโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน

มีรายงานจากผู้ใช้หลายรายที่พบว่า:

• การถอนเงินใช้เวลานานกว่าที่ระบุไว้ บางกรณีนานถึง 2 เดือน
• คำขอถอนเงินถูกปฏิเสธแม้จะปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้งหมดแล้ว
• การถอนเงินจำนวนใหญ่มักถูกเพ่งเล็งและตรวจสอบมากเป็นพิเศษ

“ถูกปฏิเสธคำขอถอนเงินจาก HFM” – รีวิวจากผู้ใช้งานจริงบน Trustpilot

นอกจากนี้ การถอนเงินยังมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก โดยผู้ใช้ต้องกรอกชื่อ-นามสกุล และสาขาธนาคารเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น หากกรอกเป็นภาษาไทย ระบบจะไม่อนุญาตให้ดำเนินการต่อ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับผู้ใช้ชาวไทยที่ไม่คุ้นเคยกับภาษาอังกฤษ

อีกประเด็นที่น่าสังเกตคือ เมื่อถอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร อัตราแลกเปลี่ยนที่ได้รับอาจไม่ดีนัก มีผู้ใช้รายงานว่าเสียเปรียบประมาณ 2.3% ของจำนวนเงินที่ถอน ซึ่งถือว่าสูงเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่น

เปิดบัญชีกับ HFM

Slippage และ Requote ที่พบบ่อย

ปัญหาด้านเทคนิคที่ผู้ใช้ HFM พบเจอบ่อยครั้งคือ Slippage และ Requote ซึ่งส่งผลให้ราคาที่ส่งคำสั่งซื้อขายไม่ตรงกับราคาที่ได้รับจริง โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง

จากรีวิวของผู้ใช้งานจริง พบว่า:

• เมื่อตลาดมีความผันผวนสูง การเกิด Slippage มักมีขนาดใหญ่กว่าปกติ
• การเกิด Requote บ่อยครั้งทำให้พลาดโอกาสในการเทรดที่ราคาที่ต้องการ
• เมื่อผู้ใช้เริ่มทำกำไรได้จำนวนหนึ่ง มักประสบปัญหา Slippage และ Requote มากขึ้น

ที่น่าสังเกตคือ บัญชีบางประเภทของ HFM ไม่มี Market Execution ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยให้คำสั่งซื้อขายเกิดขึ้นทันทีที่ราคาตลาดปัจจุบัน การขาดฟีเจอร์นี้อาจเป็นปัญหาสำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์ Scalping หรือต้องการความแม่นยำสูงในการเข้าออกตลาด

“เกิด Slippage และ Reqoute บ่อยครั้ง รวมถึงใช้เวลานานกว่าจะสามารถเปิดออเดอร์ได้ ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ใช้ต้องสูญเสียโอกาสในการทำกำไร” – รีวิวจากผู้ใช้งานจริง

การปิดบัญชีโดยไม่แจ้งล่วงหน้า

มีรายงานจากผู้ใช้งานบางรายว่า HFM ปิดบัญชีของพวกเขาโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าหรือให้เหตุผลที่ชัดเจน โดยเฉพาะกับบัญชีที่มีการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง

“ถูกปิดบัญชีและเสียเงินไปกว่า $9,000 โดยไม่ทราบสาเหตุ” – รีวิวจากผู้ใช้งานจริงบน Trustpilot

“Customer Support บริการแย่ และถูกปิดบัญชีโดยไม่ทราบสาเหตุอีกทั้งยังขอเงินในพอร์ตคืนไม่ได้” – รีวิวอีกฉบับจากผู้ใช้งานจริง

กรณีเหล่านี้มักเกิดขึ้นหลังจากที่ผู้ใช้ทำกำไรได้จำนวนหนึ่งและพยายามถอนเงิน โดย HFM อาจอ้างว่าบัญชีถูกระบบแฟล็กหรือมีการละเมิดเงื่อนไขการใช้บริการ แต่ไม่ให้รายละเอียดที่ชัดเจนว่าเป็นการละเมิดอย่างไร

ปัญหานี้สร้างความกังวลอย่างมากสำหรับนักลงทุน เพราะหมายความว่าแม้คุณจะปฏิบัติตามกฎทั้งหมดและทำกำไรได้อย่างถูกต้อง ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินลงทุนและกำไรทั้งหมดโดยไม่มีทางป้องกัน

เปิดบัญชีกับ HFM

ปัญหาการส่งคำสั่งซื้อขายล่าช้า

ความเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขายเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ โดยเฉพาะผู้ที่ใช้กลยุทธ์ Scalping หรือ Day Trading ซึ่ง HFM มีปัญหาในเรื่องนี้ โดยหลายผู้ใช้รายงานว่า:

• การส่งคำสั่งซื้อขายใช้เวลานานกว่าปกติ
• ในช่วงที่มีข่าวสำคัญ ระบบมักจะหน่วงและไม่สามารถส่งคำสั่งได้ทันที
• แพลตฟอร์มอาจค้างหรือเกิด Lag ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง

“ในช่วงข่าวที่มีผลกระทบสูง อาจมีปัญหา ‘แลค' ในช่วงไม่กี่นาทีและไม่สามารถปิดหรือเปิดตำแหน่งได้” – รีวิวจากผู้ใช้งานจริง

การล่าช้าเพียงไม่กี่วินาทีอาจส่งผลให้พลาดโอกาสในการทำกำไรหรือตัดขาดทุนที่เหมาะสม ซึ่งเป็นปัญหาร้ายแรงสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการความแม่นยำและความรวดเร็วในการเทรด

นอกจากนี้ บัญชีบางประเภทของ HFM ไม่มี Market Execution ซึ่งทำให้คำสั่งซื้อขายไม่เกิดขึ้นทันทีที่ราคาตลาดปัจจุบัน แต่ต้องรอการยืนยันราคา ซึ่งอาจทำให้ได้ราคาที่แตกต่างจากที่เห็นบนหน้าจอเมื่อส่งคำสั่ง

ฝ่ายบริการลูกค้าที่มีข้อจำกัด

แม้ HFM จะให้บริการลูกค้าในหลายภาษารวมถึงภาษาไทย แต่คุณภาพของการให้บริการยังมีข้อจำกัด หลายผู้ใช้งานรายงานว่า:

• พนักงานตอบคำถามได้ช้าและไม่ตรงประเด็น
• ปัญหาบางอย่างไม่ได้รับการแก้ไขแม้จะแจ้งไปหลายครั้ง
• การให้ข้อมูลไม่ชัดเจนและไม่ครบถ้วน โดยเฉพาะเกี่ยวกับเงื่อนไขโบนัสและค่าธรรมเนียม

“Support ตอบเร็ว แต่ไม่สามารถช่วยเหลือปัญหาการใช้งานได้มากพอ ลูกค้าต้องดำเนินเรื่องด้วยตัวเอง” – รีวิวจากผู้ใช้งานจริง

ปัญหาด้านการบริการลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญเพราะเมื่อเกิดปัญหาในการเทรด การได้รับความช่วยเหลือที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพจะช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ การที่ HFM มีข้อจำกัดในด้านนี้อาจสร้างความไม่สะดวกและความเสี่ยงเพิ่มเติมให้กับผู้ใช้งาน

เปิดบัญชีกับ HFM

เงื่อนไขโบนัสที่ซับซ้อน

HFM มีโปรโมชั่นและโบนัสที่น่าสนใจ เช่น โบนัสเงินฝาก 20% แต่เงื่อนไขในการรับและถอนโบนัสเหล่านี้มักซับซ้อนและไม่ชัดเจน ทำให้ผู้ใช้งานจำนวนมากประสบปัญหา เช่น:

• ต้องมีปริมาณการเทรดครบตามเงื่อนไข (Trading Volume) ที่กำหนดซึ่งมักสูงมาก
• ระยะเวลาในการทำยอดเทรดตามเงื่อนไขสั้นเกินไป
• เงื่อนไขบางข้อไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนบนเว็บไซต์

“มีโบนัส แต่เงื่อนไขซับซ้อน ลูกค้าหลายท่านโดนเรียกคืนเครดิต ขณะที่บางท่านถูกจำกัดการใช้งานบัญชีโบนัส” – รีวิวจากผู้ใช้งานจริง

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าลูกค้าบางรายถูกเรียกคืนเครดิตโบนัสแม้ว่าจะปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้งหมดแล้ว ซึ่งสร้างความไม่พอใจและความไม่ไว้วางใจต่อโบรกเกอร์

ควรระมัดระวังและอ่านเงื่อนไขอย่างละเอียดก่อนรับโบนัสใดๆ จาก HFM เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง

เปิดบัญชีกับ HFM

ค่าธรรมเนียมที่ไม่ได้เปิดเผยอย่างชัดเจน

แม้ HFM จะโฆษณาว่าไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากและถอนเงิน แต่มีรายงานจากผู้ใช้งานว่ามีค่าธรรมเนียมแฝงที่ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจน เช่น:

• ค่าธรรมเนียมการถอนเงินผ่านบัตรเครดิตที่อาจสูงถึง 5%
• ค่า “Carry Overnight Fee” ที่เรียกเก็บแทนค่า Swap ในบางกรณี
• ค่าธรรมเนียมการไม่มีกิจกรรมในบัญชี (Inactivity Fee) หลังจากไม่มีการเทรดเป็นระยะเวลาหนึ่ง

“บอกไม่มีค่า Swap แต่เรียกเก็บ ‘Carry Overngiht Fee' ที่ ‘ซ่อนอยู่' ไม่เปิดเผยหน้าเว็บไซต์” – รีวิวจากผู้ใช้งานจริงบน Trustpilot

การไม่เปิดเผยค่าธรรมเนียมอย่างชัดเจนและครบถ้วนอาจทำให้ผู้ใช้งานเผชิญกับค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลกำไรและประสบการณ์การใช้งานโดยรวม

ข้อจำกัดด้านการสื่อสารและความล่าช้าในการตอบสนอง

แม้ว่า HFM จะมีช่องทางการติดต่อหลากหลาย รวมถึง LINE สำหรับผู้ใช้ชาวไทย แต่หลายผู้ใช้งานยังรายงานปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการสื่อสารและความล่าช้าในการตอบสนอง โดยเฉพาะเมื่อมีปัญหาเร่งด่วนที่ต้องการการแก้ไขทันที

ปัญหาที่พบบ่อยเกี่ยวกับการสื่อสารกับ HFM ได้แก่:

• การตอบกลับที่ล่าช้าแม้จะติดต่อผ่านช่องทางที่ควรรวดเร็ว เช่น Live Chat หรือ LINE
• คำตอบที่ได้รับมักเป็นข้อความสำเร็จรูปไม่ตรงประเด็นกับปัญหาที่แจ้ง
• เมื่อมีปัญหาซับซ้อน ผู้ใช้มักถูกส่งต่อไปยังฝ่ายอื่นๆ และต้องรอการติดต่อกลับเป็นเวลานาน
• การติดตามความคืบหน้าของปัญหาที่แจ้งไปแล้วทำได้ยาก ต้องแจ้งซ้ำหลายครั้ง

นอกจากนี้ ในช่วงที่มีปัญหาเร่งด่วนเกี่ยวกับการเทรด เช่น เมื่อระบบล่มหรือมีความผิดปกติในการส่งคำสั่งซื้อขาย การได้รับความช่วยเหลือทันทีเป็นสิ่งสำคัญ แต่หลายผู้ใช้รายงานว่าไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ในช่วงวิกฤติเหล่านี้

“Support ตอบเร็ว แต่ไม่สามารถช่วยเหลือปัญหาการใช้งานได้มากพอ ลูกค้าต้องดำเนินเรื่องด้วยตัวเอง” – รีวิวจากผู้ใช้งานจริง

เปิดบัญชีกับ HFM

สรุป: HFM เหมาะกับใคร?

หลังจากพิจารณาข้อเสียทั้งหมดของ HFM แล้ว สามารถสรุปได้ว่า โบรกเกอร์นี้อาจไม่เหมาะสมสำหรับ:

1. Scalper หรือ Day Trader – เนื่องจากปัญหาเรื่อง Slippage, Requote และการส่งคำสั่งล่าช้า
2. ผู้ที่ต้องการค่า Spread ต่ำที่สุด – เพราะ HFM มีค่า Spread ที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
3. ผู้ที่ต้องการถอนเงินบ่อยหรือรวดเร็ว – เนื่องจากมีรายงานปัญหาเรื่องการถอนเงินล่าช้าหรือถูกปฏิเสธ
4. นักลงทุนมือใหม่ – เพราะเงื่อนไขโบนัสซับซ้อนและค่าธรรมเนียมไม่ชัดเจน
5. ผู้ที่ต้องการการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ – แม้จะมีหลายช่องทางการติดต่อรวมถึง LINE แต่ยังมีข้อจำกัดในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนอย่างทันท่วงที

อย่างไรก็ตาม HFM อาจเหมาะสำหรับ:

• ผู้ที่ต้องการเทรดสินทรัพย์หลากหลายประเภทในที่เดียว
• ผู้ที่ใช้กลยุทธ์ Swing Trading หรือ Position Trading ที่ไม่ได้เน้นความเร็วในการส่งคำสั่ง
• ผู้ที่ต้องการใช้แพลตฟอร์ม MT4/MT5 และมีบัญชีที่รองรับภาษาไทย

เปิดบัญชีกับ HFM

คำแนะนำสุดท้าย: หากคุณยังสนใจ HFM แม้จะทราบถึงข้อเสียเหล่านี้แล้ว ควรเริ่มต้นด้วยเงินลงทุนที่จำกัดและทดสอบการใช้งานด้วยตนเองก่อน หรือพิจารณาโบรกเกอร์ทางเลือกอื่นที่อาจตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ดีกว่า

คำเตือน: การลงทุนในตลาด Forex และ CFD มีความเสี่ยงสูง คุณอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ ควรศึกษาข้อ