BMS Forex คืออะไร Break in Market Structure หรือ BMS วิธีใช้งานอย่างละเอียด

Break in Market STructure (BMS) คืออะไร

ความหมายของ MSB/BMS MSB (Market Structure Break) หรือ BMS (Break of Market Structure) เป็นแนวคิดสำคัญในกลยุทธ์การเทรดแบบ ICT (Inner Circle Trader) Concept โดยหมายถึงการที่ราคาทะลุผ่านโครงสร้างตลาดที่สำคัญ ซึ่งบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มหรือการเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวใหม่ในตลาด ลักษณะของ MSB/BMS Bullish MSB/BMS: เกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุผ่านจุดสูงสุดเก่า (previous high) สร้างจุดต่ำสุดที่สูงกว่าจุดต่ำสุดก่อนหน้า (higher low) Bearish MSB/BMS: เกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุผ่านจุดต่ำสุดเก่า (previous low) สร้างจุดสูงสุดที่ต่ำกว่าจุดสูงสุดก่อนหน้า (lower high) ความสำคัญในกลยุทธ์ ICT บ่งชี้การเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม: MSB/BMS เป็นสัญญาณที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มของตลาด ระบุจุดเข้าเทรด: หลังจากเกิด MSB/BMS มักจะมีการสร้าง Order Block ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับการเข้าเทรด กำหนดระดับ Stop Loss: ใช้เป็นจุดอ้างอิงในการวาง Stop …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>

BISI ICT Forex คือ อะไร ทำความรู้จักกับ ICT concept

BISI คืออะไร ICT concept

BISI คืออะไร? BISI ย่อมาจาก Buy Side Imbalance Sell Side Inefficiency เป็นหนึ่งในแนวคิดสำคัญของกลยุทธ์การเทรดแบบ ICT (Inner Circle Trader) ในตลาด Forex ลักษณะสำคัญของ BISI ความหมายโดยรวม: BISI เป็นช่องว่างของมูลค่าที่เป็นธรรม (fair value gap) ในทิศทางขาขึ้น ตามด้วยการเคลื่อนไหวของราคาขึ้นอย่างรุนแรง แรงขับเคลื่อน: การเคลื่อนไหวนี้ขับเคลื่อนโดยผู้ซื้อเป็นหลัก โดยมีผู้ขายเข้ามาต่อต้านน้อยมาก รูปแบบแท่งเทียน: BISI ประกอบด้วยการเรียงตัวของแท่งเทียน 3 แท่ง โดยมีลักษณะดังนี้: แท่งเทียนมีตัวเทียนขนาดใหญ่ (large bodies) มีไส้เทียนสั้นมาก (minimal wicks) แสดงถึงแรงซื้อที่รุนแรง ช่องว่างราคา: เกิดช่องว่างระหว่างจุดสูงสุดของแท่งเทียนแรกและจุดต่ำสุดของแท่งเทียนที่สาม นัยยะสำคัญ: ช่องว่างนี้แสดงถึงความแข็งแกร่งของผู้ซื้อและความไร้ประสิทธิภาพของผู้ขายในการต่อต้านแรงซื้อ การใช้ BISI ในการเทรด BISI สามารถใช้ในการเทรดได้หลายรูปแบบ แต่ไม่ควรใช้เพียงอย่างเดียว ควรใช้ร่วมกับแนวคิด ICT …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>

แท่งเทียน Bearish Harami คืออะไร วิธีการใช้งาน

แท่งเทียน Bearish Harami คืออะไร

ความหมายและลักษณะ Bearish Harami เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค มักพบในช่วงท้ายของแนวโน้มขาขึ้นและบ่งชี้ถึงการกลับตัวเป็นขาลง คำว่า “Harami” มาจากภาษาญี่ปุ่น แปลว่า “ตั้งครรภ์” ซึ่งสะท้อนถึงลักษณะของรูปแบบนี้ ลักษณะของ Bearish Harami ประกอบด้วย: แท่งเทียนแรก: เป็นแท่งสีเขียว (หรือขาว) ขนาดใหญ่ แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้น แท่งเทียนที่สอง: เป็นแท่งสีแดง (หรือดำ) ขนาดเล็กกว่า โดยตัวแท่งเทียนอยู่ภายในร่างของแท่งแรกทั้งหมด ความสำคัญทางเทคนิค Bearish Harami มีความสำคัญทางเทคนิคดังนี้: บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของแนวโน้มขาขึ้น แสดงถึงความไม่แน่นอนในตลาดและการเปลี่ยนแปลงของแรงซื้อขาย อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงการกลับตัวของราคาในอนาคตอันใกล้ วิธีการระบุ Bearish Harami การระบุ Bearish Harami สามารถทำได้โดย: มองหาแท่งเทียนสีเขียวขนาดใหญ่ในช่วงปลายของแนวโน้มขาขึ้น สังเกตแท่งเทียนถัดไป ต้องเป็นแท่งสีแดงขนาดเล็กกว่า ตรวจสอบว่าแท่งที่สองอยู่ภายในร่างของแท่งแรกทั้งหมด การยืนยันสัญญาณ แม้ว่า Bearish Harami จะเป็นสัญญาณที่น่าสนใจ แต่ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือและการวิเคราะห์อื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณ เช่น: ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น การแตกของเส้นแนวโน้มหรือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ การยืนยันจากตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>

Swing High Swing Low คืออะไร ในการเทรดแบบ ICT Concept

swing low swing high คืออะไร

Swing High Swing Low คืออะไรในการเทรดแบบ ICT Concept ในการเทรดแบบ ICT (Inner Circle Trader) Concept, การเข้าใจเรื่อง Swing High และ Swing Low เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นพื้นฐานในการวิเคราะห์โครงสร้างตลาดและการระบุจุดเข้าเทรดที่มีโอกาสสูง ความหมายของ Swing High และ Swing Low Swing High: คือจุดสูงสุดของราคาในช่วงการเคลื่อนไหวขึ้น ก่อนที่ราคาจะเปลี่ยนทิศทางลง Swing Low: คือจุดต่ำสุดของราคาในช่วงการเคลื่อนไหวลง ก่อนที่ราคาจะเปลี่ยนทิศทางขึ้น ทั้ง Swing High และ Swing Low สามารถพบได้ในทุกตลาดและทุกกรอบเวลา (Timeframe) นักเทรดใช้จุดเหล่านี้ในการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดผ่านการวิเคราะห์ทางเทคนิค การเกิด Swing High และ Swing Low ตามแนวคิด ICT, Swing High และ …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>

SIBI ICT คือ อะไร ใช้วิเคราะห์อย่างไร ในตลาด forex

SIBI คืออะไร

SIBI หรือ Sell Side Imbalance Buy Side Inefficiency เป็นหนึ่งในแนวคิดที่สำคัญของกลยุทธ์การเทรดแบบ ICT (Inner Circle Trader) รูปแบบนี้มีบทบาทสำคัญในการระบุโอกาสการเทรดที่อาจเกิดขึ้นในตลาดขาลง มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ SIBI กันว่าคืออะไร เกิดขึ้นอย่างไร และนักเทรดสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างไร SIBI คืออะไร? SIBI เป็นช่องว่างมูลค่าที่เป็นธรรม (fair value gap) ในทิศทางขาลง ตามด้วยการเคลื่อนไหวของราคาลงอย่างรวดเร็ว มันแสดงถึงแรงกดดันการขายที่รุนแรงโดยมีแรงซื้อเข้ามาตอบโต้น้อยมาก คำว่า “Sell Side Imbalance Buy Side Inefficiency” อธิบายสภาวะตลาดนี้ได้อย่างเหมาะสม – แสดงถึงการครอบงำของผู้ขายและความไร้ประสิทธิภาพของผู้ซื้อ การเกิดรูปแบบ SIBI SIBI สามารถระบุได้จากการเกิดแท่งเทียน 3 แท่งที่มีลักษณะเฉพาะ: แท่งเทียนทั้งสามมีตัวเทียนขนาดใหญ่และมีไส้เทียนน้อยมาก แสดงถึงแรงกดดันการขายที่รุนแรง มีช่องว่างที่สังเกตได้ระหว่างจุดต่ำสุดของแท่งเทียนแรกกับจุดสูงสุดของแท่งเทียนที่สาม รูปแบบโดยรวมแสดงแนวโน้มขาลงอย่างชัดเจน การเกิดรูปแบบนี้เน้นย้ำถึงการมีอยู่อย่างท่วมท้นของผู้ขายในตลาดและความไม่สามารถของผู้ซื้อในการต่อต้านแรงกดดันการขายนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีใช้ SIBI ในการเทรด แม้ว่า SIBI …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>

แท่งเทียน Shaven Bottom คืออะไร วิเคราะห์อย่างไร

แท่งเทียน shaven bottom คืออะไร

Shaven Bottom คือแท่งเทียนอะไร วิเคราะห์อย่างไร ในโลกของการวิเคราะห์ทางเทคนิค รูปแบบแท่งเทียนเป็นเครื่องมือสำคัญในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา หนึ่งในรูปแบบที่น่าสนใจและมีความสำคัญคือ Shaven Bottom หรือแท่งเทียนไร้เงาล่าง บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Shaven Bottom อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย วิธีการระบุ ไปจนถึงการนำไปใช้ในการวิเคราะห์ตลาด 1. Shaven Bottom คืออะไร? Shaven Bottom เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเด่นคือไม่มีเงา (shadow) หรือไส้ (wick) ด้านล่าง โดยมีชื่อภาษาไทยว่า “ก้นเกลี้ยง” เนื่องจากลักษณะที่ไม่มีเงายื่นออกมาด้านล่างของแท่งเทียน ลักษณะสำคัญของ Shaven Bottom: ไม่มีเงาหรือไส้ด้านล่าง ราคาปิดอยู่ที่จุดต่ำสุดของแท่งเทียน (สำหรับแท่งสีแดง) หรือราคาเปิดอยู่ที่จุดต่ำสุดของแท่งเทียน (สำหรับแท่งสีเขียว) อาจมีหรือไม่มีเงาด้านบน สามารถเป็นได้ทั้งแท่งเทียนสีเขียว (bullish) หรือสีแดง (bearish) 2. วิธีระบุ Shaven Bottom การระบุ Shaven Bottom ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงมองหาแท่งเทียนที่มีลักษณะดังนี้: ไม่มีเงาหรือไส้ด้านล่างของแท่งเทียน จุดต่ำสุดของแท่งเทียนตรงกับราคาปิด …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>

แท่งเทียน Shaven Head คืออะไร วิเคราะห์อย่างไร

แท่งเทียน shaven head คืออะไร

Shaven Head กราฟแท่งเทียนไร้ไส้เทียน ในโลกของการวิเคราะห์ทางเทคนิค รูปแบบแท่งเทียนเป็นเครื่องมือสำคัญในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา หนึ่งในรูปแบบที่น่าสนใจและมีความสำคัญคือ Shaven Head หรือแท่งเทียนไร้เงาบน บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Shaven Head อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย วิธีการระบุ ไปจนถึงการนำไปใช้ในการวิเคราะห์ตลาด 1. Shaven Head คืออะไร? Shaven Head เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเด่นคือไม่มีเงา (shadow) หรือไส้ (wick) ด้านบน โดยมีชื่อภาษาไทยว่า “หัวโล้น” เนื่องจากลักษณะที่ไม่มีเงายื่นออกมาด้านบนของแท่งเทียน ลักษณะสำคัญของ Shaven Head: ไม่มีเงาหรือไส้ด้านบน ราคาปิดอยู่ที่จุดสูงสุดของแท่งเทียน (สำหรับแท่งสีเขียว) หรือราคาเปิดอยู่ที่จุดสูงสุดของแท่งเทียน (สำหรับแท่งสีแดง) อาจมีหรือไม่มีเงาด้านล่าง สามารถเป็นได้ทั้งแท่งเทียนสีเขียว (bullish) หรือสีแดง (bearish) 2. วิธีระบุ Shaven Head การระบุ Shaven Head ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงมองหาแท่งเทียนที่มีลักษณะดังนี้: ไม่มีเงาหรือไส้ด้านบนของแท่งเทียน จุดสูงสุดของแท่งเทียนตรงกับราคาปิด (สำหรับแท่งสีเขียว) …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>

แท่งเทียน spinning top คืออะไร วิเคราะห์อย่างไร

แท่งเทียน spinning top คืออะไร

รู้จักแท่งเทียน Spinning Top อย่างละเอียด ในโลกของการวิเคราะห์ทางเทคนิค รูปแบบแท่งเทียนเป็นเครื่องมือสำคัญในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา หนึ่งในรูปแบบที่น่าสนใจและพบเห็นได้บ่อยคือ Spinning Top หรือแท่งเทียนรูปลูกข่าง บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Spinning Top อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย วิธีการระบุ ไปจนถึงการนำไปใช้ในการวิเคราะห์ตลาด 1. Spinning Top คืออะไร? Spinning Top เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะคล้ายลูกข่าง โดยมีชื่อภาษาไทยว่า “ลูกข่าง” เนื่องจากรูปร่างของมันคล้ายกับลูกข่างที่กำลังหมุน ลักษณะสำคัญของ Spinning Top: มีตัวแท่งเทียน (body) ขนาดเล็ก มีไส้เทียน (shadow) ทั้งด้านบนและด้านล่างที่ยาวกว่าตัวแท่งเทียน ไส้เทียนด้านบนและด้านล่างมีความยาวใกล้เคียงกัน สามารถเป็นได้ทั้งแท่งเทียนสีเขียว (bullish) หรือสีแดง (bearish) 2. วิธีระบุ Spinning Top การระบุ Spinning Top ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงมองหาแท่งเทียนที่มีลักษณะดังนี้: ตัวแท่งเทียนมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับความยาวทั้งหมดของแท่งเทียน มีไส้เทียนทั้งด้านบนและด้านล่างที่ยาวกว่าตัวแท่งเทียน ไส้เทียนด้านบนและด้านล่างมีความยาวใกล้เคียงกัน สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงของแนวโน้มตลาด 3. …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>

แท่งเทียน Shooting Star คืออะไร วิเคราะห์อย่างไร

แท่งเทียน shooting star คืออะไร

แท่งเทียน Shooting Star คืออะไร ในโลกของการวิเคราะห์ทางเทคนิค รูปแบบแท่งเทียนเป็นเครื่องมือสำคัญในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา หนึ่งในรูปแบบที่น่าสนใจและมีความสำคัญคือ Shooting Star หรือแท่งเทียนรูปดาวตก บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Shooting Star อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย วิธีการระบุ ไปจนถึงการนำไปใช้ในการวิเคราะห์ตลาด 1. Shooting Star คืออะไร? Shooting Star เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะคล้ายดาวตก โดยมีชื่อภาษาไทยว่า “ดาวตก” เนื่องจากรูปร่างของมันคล้ายกับดาวตกที่กำลังพุ่งลงมา ลักษณะสำคัญของ Shooting Star: มีไส้เทียนด้านบนยาว (อย่างน้อย 2 เท่าของตัวแท่งเทียน) มีตัวแท่งเทียนสั้น (ส่วนหัวของดาวตก) มีไส้เทียนด้านล่างสั้นมากหรือไม่มีเลย เกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาขึ้น 2. วิธีระบุ Shooting Star การระบุ Shooting Star ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงมองหาแท่งเทียนที่มีลักษณะดังนี้: ไส้เทียนด้านบนยาวอย่างน้อย 2 เท่าของตัวแท่งเทียน ตัวแท่งเทียนสั้น (ส่วนหัวของดาวตก) อยู่ที่ส่วนล่างของช่วงราคา ไส้เทียนด้านล่างสั้นมากหรือไม่มีเลย เกิดขึ้นหลังจากการเคลื่อนไหวขาขึ้น …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>

แท่งเทียน Inverted Hammer คืออะไร ใช้วิเคราะห์อย่างไร

แท่งเทียน inverted hammer คืออะไร

Inverted Hammer คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับนักวิเคราะห์ทางเทคนิคและนักลงทุน ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค รูปแบบแท่งเทียนเป็นเครื่องมือสำคัญในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา หนึ่งในรูปแบบที่น่าสนใจและมีความสำคัญคือ Inverted Hammer หรือแท่งเทียนรูปค้อนกลับหัว บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Inverted Hammer อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย วิธีการระบุ ไปจนถึงการนำไปใช้ในการวิเคราะห์ตลาด 1. Inverted Hammer คืออะไร? Inverted Hammer เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะคล้ายค้อนกลับหัว โดยมีชื่อภาษาไทยว่า “ค้อนกลับหัว” เนื่องจากรูปร่างของมันคล้ายกับค้อนที่ถูกกลับหัว ลักษณะสำคัญของ Inverted Hammer: มีไส้เทียนด้านบนยาว (อย่างน้อย 2 เท่าของตัวแท่งเทียน) มีตัวแท่งเทียนสั้น (ส่วนหัวของค้อนกลับหัว) มีไส้เทียนด้านล่างสั้นมากหรือไม่มีเลย เกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาลง 2. วิธีระบุ Inverted Hammer การระบุ Inverted Hammer ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงมองหาแท่งเทียนที่มีลักษณะดังนี้: ไส้เทียนด้านบนยาวอย่างน้อย 2 เท่าของตัวแท่งเทียน ตัวแท่งเทียนสั้น (ส่วนหัวของค้อนกลับหัว) อยู่ที่ส่วนล่างของช่วงราคา ไส้เทียนด้านล่างสั้นมากหรือไม่มีเลย เกิดขึ้นหลังจากการเคลื่อนไหวขาลง 3. …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>