FVG คืออะไร Fair Value Gap (FVG) คือช่องว่างของราคาที่เกิดขึ้นจากการที่ตลาดขาดสมดุล (Imbalance) ระหว่างอุปสงค์และอุปทาน ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็วเพื่อไปปิด Gap ที่เกิดขึ้น โดยปกติแล้วราคาในตลาดจะมีการเคลื่อนไหวอย่างค่อยเป็นค่อยไป สะท้อนถึงการซื้อขายที่มีความสมดุลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย แต่เมื่อใดก็ตามที่มีการสะสมของออเดอร์ในทิศทางใดทิศทางหนึ่งมากเกินไป อีกฝั่งหนึ่งจะเกิดการขาดแคลนคำสั่งซื้อหรือขายในระดับราคานั้นๆ ทำให้ตลาดไม่สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น Smooth และเกิดการกระโดดของราคาขึ้นมา ช่วงที่ราคามีการกระโดดอย่างรวดเร็วนี้เอง ที่เรียกว่าเป็น Fair Value Gap ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่สมดุลของอุปสงค์อุปทานในตลาด ก่อนที่ราคาจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อ Gap ถูกปิดลง FVG มักเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดมีสภาพคล่องต่ำ (Low Liquidity) เช่นในช่วงเปิดตลาดหลังวันหยุดยาว หรือระหว่างช่วงเวลา Midnight เป็นต้น เนื่องจากมีผู้เล่นในตลาดน้อยจึงทำให้เกิดความไม่สมดุลได้ง่าย ความสำคัญของ FVG ในมุมมอง ICT ตามความเชื่อของ ICT แล้ว FVG ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่มักเป็นผลมาจากการกระทำของ Smart Money (SM) ในตลาดเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจาก SM มักจะใช้กลยุทธ์การเทรดที่มุ่งเน้นเข้าไปในจุดที่มีสภาพคล่องต่ำ แล้วทำการกวาดออเดอร์ของรายย่อยจำนวนมากเพื่อผลักดันราคาไปยังทิศทางที่ต้องการ …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
Order Block คืออะไร Order Block (OB) คือกลุ่มแท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลังการเปลี่ยนทิศทางของราคาอย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยปกติแล้ว OB จะมีลักษณะเป็นแท่งเทียนที่มีขนาดใหญ่ และเกิดขึ้นหลังจากมีการพักตัวของราคาในกรอบแคบๆ (Consolidation) มาสักระยะหนึ่ง OB ถือเป็นคลังที่สะสม Liquidity ของตลาดเอาไว้ เนื่องจากเป็นช่วงที่นักลงทุนจำนวนมากเข้ามาวางคำสั่งซื้อหรือขายอย่างหนาแน่น เพื่อรอการระเบิดของราคาหลังจากอยู่ในภาวะ Sideway มาพอสมควร โดยทั่วไป Order Block จะแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ Bullish Order Block (BOB) – เกิดขึ้นเมื่อมีแท่งเทียนที่มีพื้นที่ใหญ่ปรากฏขึ้นหลังการ Breakout เหนือกรอบ Sideway ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสัญญาณของการเริ่มต้น Uptrend Bearish Order Block (BEB) – เกิดขึ้นเมื่อมีแท่งเทียนที่มีพื้นที่ใหญ่ปรากฏขึ้นหลังการ Breakdown ใต้กรอบ Sideway ซึ่งมักจะเป็นสัญญาณของการเริ่ม Downtrend ความสำคัญของ Order Block ในมุมมอง ICT …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
Order Block คืออะไร Order Block (OB) คือแท่งเทียนที่มีขนาดใหญ่หรือกลุ่มแท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลังจากราคาเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง Consolidation หรือ Sideway มาพักหนึ่ง ซึ่งบ่งบอกถึงการเกิดแรงซื้อขายจำนวนมากที่หลั่งไหลเข้ามาในตลาด โดย OB มักจะมีพฤติกรรมดังนี้: เกิดขึ้นหลังจากการพักตัวหรือพักฐานของราคาในกรอบแคบๆ มีแท่งเทียนขนาดใหญ่อย่างน้อย 1 แท่ง ที่เป็นตัวนำของการเคลื่อนไหวนั้นๆ มีการรวมตัวของแท่งเทียนในทิศทางเดียวกันต่อเนื่องอย่างน้อย 2-3 แท่ง ความแตกต่างระหว่าง Bullish และ Bearish Order Block Order Block นั้นแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ตามทิศทางการเกิดคือ Bullish Order Block และ Bearish Order Block ซึ่งมีลักษณะและความหมายต่างกันดังนี้ Bullish Order Block (BOB) คือ OB ที่เกิดขึ้นจากการที่ราคาสามารถ Breakout เหนือกรอบ Consolidation ขึ้นไปได้ บ่งบอกถึงการมีแรงซื้อหนาแน่นเข้ามาในตลาด …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
Breaker Block คืออะไร Breaker Block คือแท่งเทียนหรือกลุ่มของแท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลังจากราคาทะลุผ่าน Swing High หรือ Swing Low ครั้งล่าสุดไปได้ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของกราฟ (Structure) อย่างชัดเจน ลักษณะสำคัญของ Breaker Block มีดังนี้: เป็น Block ที่มีการปิดราคาเหนือ Swing High ครั้งล่าสุด (กรณีขาขึ้น) หรือต่ำกว่า Swing Low ครั้งล่าสุด (กรณีขาลง) ส่วนใหญ่จะประกอบด้วยแท่งเทียนอย่างน้อย 1-3 แท่ง ไม่จำเป็นต้องเป็นแท่งเดียว แท่งเทียนมักมีขนาดใหญ่ น้ำหนักหนัก และสัดส่วนเทียนเต็มเกือบทั้งแท่ง แสดงถึงแรงซื้อขายที่เด่นชัด หลังจากเกิด Breaker Block ขึ้นแล้ว ราคามักจะมีการพักตัวหรือย้อนกลับมาเล็กน้อย ก่อนที่จะเริ่มเคลื่อนไปในทิศทางเดิมต่อ ความสำคัญของ Breaker Block ในมุมมอง ICT ตามความเชื่อของกลุ่มเทรดเดอร์ ICT นั้น Breaker Block …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
Order Block กับ Demand ต่างกันอย่างไร ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคของตลาด Forex นั้น มีคอนเซปต์ที่เกี่ยวข้องกับโซนสำคัญๆ ของราคาอยู่หลายแบบ ซึ่งสองคอนเซปต์ที่มักถูกเข้าใจผิดและใช้สับสนกันอยู่บ่อยๆ ก็คือ Order Block และ Demand Zone นั่นเอง แม้ทั้งสองแนวคิดนี้จะมีส่วนคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง แต่ก็มีความแตกต่างที่ชัดเจนในแง่ของนิยาม วิธีการระบุ และการประยุกต์ใช้ ซึ่งบทความนี้จะมาไขข้อข้องใจให้กระจ่าง พร้อมแนะนำเทคนิคการวิเคราะห์อย่างละเอียด เพื่อให้นำไปใช้ในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น Order Block คืออะไร Order Block (OB) คือแนวคิดที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในวงการเทรด ICT (Inner Circle Trader) ซึ่งเชื่อว่าเป็นบริเวณสำคัญที่สุดบนกราฟ ที่เหล่า Smart Money มักจะเข้ามาวางออเดอร์จำนวนมหาศาลเอาไว้ โดย OB จะมีลักษณะเป็นแท่งเทียนหรือกลุ่มแท่งเทียนที่มีความผิดปกติอย่างชัดเจน ทั้งในแง่ของขนาด รูปร่างและทิศทาง ซึ่งมักเกิดขึ้นหลังจากตลาดเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ มาสักพัก ก่อนที่จะมีการดีดหรือร่วงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว OB แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ Bullish …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
Block Zone คืออะไร Block Zone คือการรวมกันของ Order Block หลายๆ อันในบริเวณใกล้เคียงกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงโซนสำคัญที่ Smart Money มักวางออเดอร์ไว้อย่างหนาแน่นเป็นพิเศษ โดยปกติ Block Zone จะมีอายุการใช้งานได้นานกว่า Order Block ทั่วไป เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีความเข้มข้นของ Supply และ Demand สูงมาก ลักษณะสำคัญของ Block Zone มีดังนี้: ประกอบด้วย Order Block อย่างน้อย 2-3 อันที่อยู่ในระดับราคาใกล้กัน มีการขยายตัวของโซนออกไปทั้งในแนวราบและแนวดิ่ง ให้ความกว้างและหนามากกว่า OB ปกติ แต่ละ OB ที่อยู่ใน Block Zone จะมีคุณสมบัติหลักๆ ครบถ้วน เช่น มีขนาดใหญ่ ไม่มี Wick ที่ชัดเจน เกิดจากการ Break Structure …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
Rejection Block คืออะไร Rejection Block เป็นหนึ่งในหลักการสำคัญของ ICT (Inner Circle Trader) ซึ่งเป็นแนวคิดที่ได้รับความนิยมในหมู่เทรดเดอร์ โดยอาศัยการวิเคราะห์ราคาจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งมักจะมีการสะสมออร์เดอร์ (liquidity) และกระตุ้นการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็ว นิยาม Rejection Block Rejection Block คือ รูปแบบราคาที่เกิดขึ้นหลังจากการกวาดสะสมออร์เดอร์ของนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งจะเห็นได้จากการเกิดแท่งเทียนที่มี rejection wick ยาวๆ ทั้งขาขึ้นและขาลง ก่อนที่ราคาจะย้อนกลับมายังทิศทางเดิม ทำให้เกิด market structure ใหม่ขึ้น นั่นคือเทรนด์ขาขึ้นหรือขาลงนั่นเอง ประเภทของ Rejection Block Rejection Block แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ Bullish Rejection Block เกิดขึ้นเมื่อราคาลงไปกวาด liquidity บริเวณด้านล่าง แล้วเกิดแท่งเทียนที่มี lower wick ยาวๆ หนึ่งหรือสองแท่ง หลังจากนั้นราคาจะดีดกลับขึ้นมา พร้อมกับเกิด …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
Imbalance คืออะไร Imbalance หรือความไม่สมดุลของราคา เป็นแนวคิดสำคัญที่ถูกนำเสนอโดย ICT (Inner Circle Trader) ซึ่งอธิบายว่าตลาดมักจะพยายามสร้างความสมดุลระหว่างด้านซื้อ (Buy Side) และด้านขาย (Sell Side) ในทุกช่วงราคาบนกราฟ ความหมายของ Imbalance Buy Side หมายถึง การเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีการย้อนกลับหรือแกว่งตัวมากนัก Sell Side หมายถึง การเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางขาลงอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีการดีดตัวขึ้นหรือแกว่งตัวมากนัก Balanced Range คือช่วงราคาที่มีทั้ง Buy Side และ Sell Side อยู่ในสัดส่วนที่สมดุลกัน Imbalanced Range คือช่วงราคาที่มีเพียงด้านใดด้านหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น Buy Side หรือ Sell Side เพียงอย่างเดียว ซึ่งถือว่าเป็นจุดไม่สมดุล ตัวอย่างของ Imbalance ในแท่งเทียน ในแท่งเทียนขาขึ้น (สีเขียว) ส่วนไส้เทียนถือเป็น Imbalanced …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
Order Block indicator มีอะไรบ้าง Order Block เป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมในหมู่เทรดเดอร์ โดยเฉพาะผู้ที่ใช้เทคนิค Price Action ซึ่งหมายถึงการอ่านกราฟราคาเปล่าๆ โดยไม่พึ่งอินดิเคเตอร์มากนัก Order Block คือโซนราคาที่สะท้อนถึงจุดสะสมออร์เดอร์ของกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งเมื่อราคากลับมายังบริเวณนั้นอีกครั้ง มักจะเกิดปฏิกิริยาตอบรับที่น่าสนใจ ลักษณะของ Order Block เป็นโซนราคาที่เกิดการสะสมออร์เดอร์ขนาดใหญ่ ก่อนที่ราคาจะวิ่งไปในทิศทางเดียวอย่างรวดเร็ว ประกอบด้วยแท่งเทียน 1-2 แท่งที่มีขนาดใหญ่ผิดปกติ บ่งบอกถึงการเข้ามาของ Smart Money เมื่อราคาย้อนกลับมายัง Order Block มักจะเกิดการตอบรับอย่างชัดเจน เช่น รีบาวน์ หรือทะลุผ่านไปได้อย่างง่ายดาย ประเภทของ Order Block Bullish Order Block เกิดขึ้นเมื่อมีการสะสมออร์เดอร์ Buy ขนาดใหญ่ แล้วราคาวิ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็ว แท่งเทียนมักมีลักษณะเป็นสีเขียวและมี Wick ด้านล่างยาวๆ เมื่อราคาย้อนกลับมาที่ Bullish Order Block อีกครั้ง มันจะกลายเป็นแนวรับสำคัญ Bearish …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>
ในการวิเคราะห์กราฟแบบ ICT (Inner Circle Trader) นั้น มีเครื่องมือสำคัญหลายอย่างที่ช่วยให้เทรดเดอร์มองเห็นพฤติกรรมของตลาดและคาดการณ์ทิศทางได้แม่นยำมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ EQH และ EQL ซึ่งเป็นคอนเซปต์ที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างของราคาและแนวรับแนวต้านที่สำคัญนั่นเอง EQH และ EQL คืออะไร EQH ย่อมาจาก Equal High หมายถึงจุดสูงสุดของราคาที่อยู่ในระดับเดียวกัน EQL ย่อมาจาก Equal Low หมายถึงจุดต่ำสุดของราคาที่อยู่ในระดับเดียวกัน โดยทั่วไป EQH และ EQL จะต้องมีอย่างน้อย 2 จุดที่ราคาขึ้นไปแตะระดับเดียวกันสำหรับ EQH หรือลงมาแตะระดับเดียวกันสำหรับ EQL โดยที่จุดเหล่านั้นมักจะทิ้งระยะห่างบ้าง แต่ไม่ไกลจนเกินไป จุด EQH และ EQL ถือเป็นแนวรับแนวต้านชั้นดี เพราะแสดงถึงระดับที่ราคาเคยพยายามทะลุผ่านไปแล้วแต่ไม่สำเร็จ มีแรงซื้อขายเข้ามาประจันหน้ากันอย่างหนาแน่น ดังนั้นเมื่อราคาย้อนกลับมาแตะบริเวณนี้อีก มักจะมีแรงดีดกลับเกิดขึ้นค่อนข้างแรง ความสำคัญของ EQH EQL ในมุมมองของ ICT ตามทฤษฎีของ ICT แล้ว …..คลิ๊กเพื่ออ่าน>>>