Bonus

บัญชี Raw Spread คืออะไร? รีวิวละเอียดและข้อดีข้อเสียปี 2025

Exness บัญชี Raw Spread
Exness บัญชี Raw Spread

หากคุณกำลังเทรด Forex หรือสนใจเริ่มต้นลงทุนในตลาดการเงิน คุณอาจเคยได้ยินคำว่า “บัญชี Raw Spread” อยู่บ่อยครั้ง แต่คุณรู้หรือไม่ว่ามันคืออะไรและทำไมจึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพทั่วโลก? บทความนี้จะอธิบายทุกอย่างที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับบัญชี Raw Spread เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าเหมาะกับสไตล์การเทรดของคุณหรือไม่

สารบัญ:

Table of Contents

บัญชี Raw Spread คืออะไร?

บัญชี Raw Spread คือประเภทบัญชีเทรด Forex และ CFD ที่มีลักษณะพิเศษคือมีสเปรดที่ต่ำมากหรือแคบเป็นพิเศษ (บางครั้งเริ่มต้นที่ 0 pip) แต่จะมีค่าคอมมิชชั่นแยกต่างหากเรียกเก็บในทุกการซื้อขาย

คำว่า “Raw” หมายถึง สเปรดดิบที่ไม่มีการบวกเพิ่ม ซึ่งเป็นสเปรดที่คุณเห็นโดยตรงจากผู้ให้สภาพคล่อง (Liquidity Providers) โดยไม่มีการบวกค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมของโบรกเกอร์เข้าไปในสเปรด

ในตลาด Forex ทั่วไป โบรกเกอร์จะมีรายได้จากการเพิ่มค่าธรรมเนียมเข้าไปในสเปรด ซึ่งเป็นส่วนต่างระหว่างราคาซื้อ (Bid) และราคาขาย (Ask) แต่สำหรับบัญชี Raw Spread โบรกเกอร์จะไม่เพิ่มค่าธรรมเนียมเข้าไปในสเปรด แต่จะเก็บค่าคอมมิชชั่นทุกครั้งที่มีการซื้อขายแทน

เปิดบัญชีกับ Exness

โครงสร้างค่าธรรมเนียมของบัญชี Raw Spread

บัญชี Raw Spread มีโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่แตกต่างจากบัญชีแบบมาตรฐาน โดยแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก:

1. สเปรดดิบ (Raw Spread)

คือส่วนต่างของราคาซื้อและราคาขายที่มาจากผู้ให้สภาพคล่องโดยตรง โดยไม่มีการบวกเพิ่มจากโบรกเกอร์ มักจะเริ่มต้นที่ 0-0.3 pips สำหรับคู่เงินหลัก เช่น EUR/USD หรือ GBP/USD

2. ค่าคอมมิชชั่น (Commission)

เป็นค่าธรรมเนียมคงที่ที่คิดต่อล็อต (Lot) โดยคิดทั้งขาเข้า (เมื่อซื้อ/ขาย) และขาออก (เมื่อปิดออเดอร์) โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ $3-7 ต่อล็อตต่อรอบการซื้อขาย (เปิด-ปิดคำสั่ง)

ตัวอย่างเช่น โบรกเกอร์อาจคิดค่าคอมมิชชั่น $5 ต่อล็อตต่อรอบการซื้อขาย ($2.5 สำหรับการเปิดคำสั่ง และ $2.5 สำหรับการปิดคำสั่ง)

ข้อดีของบัญชี Raw Spread

1. สเปรดต่ำกว่าและคงที่มากกว่า

บัญชี Raw Spread มีสเปรดที่แคบกว่าบัญชีมาตรฐานอย่างมีนัยสำคัญ และมักจะมีความผันผวนน้อยกว่าแม้ในช่วงข่าวเศรษฐกิจสำคัญ เนื่องจากเป็นสเปรดที่มาจากผู้ให้สภาพคล่องโดยตรง ทำให้เทรดเดอร์สามารถวางแผนกลยุทธ์การเทรดได้แม่นยำมากขึ้น

2. ต้นทุนรวมต่ำสำหรับเทรดเดอร์ที่เทรดปริมาณมาก

สำหรับผู้ที่เทรดปริมาณมากหรือบ่อยครั้ง บัญชี Raw Spread จะมีต้นทุนรวมที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับบัญชีมาตรฐานที่คิดสเปรดกว้างกว่า เนื่องจากค่าคอมมิชชั่นคงที่จะคุ้มค่ากว่าเมื่อมีการซื้อขายปริมาณมาก

3. เหมาะกับกลยุทธ์การเทรดระยะสั้น

กลยุทธ์การเทรดแบบ Scalping, Day Trading หรือการใช้ระบบอัตโนมัติ (EA) จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นกับบัญชี Raw Spread เนื่องจากต้นทุนสเปรดที่ต่ำกว่าทำให้สามารถทำกำไรได้แม้จากการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อย

4. ความโปร่งใสในต้นทุนการเทรด

การแยกค่าสเปรดและค่าคอมมิชชั่นออกจากกันทำให้เทรดเดอร์เห็นต้นทุนการเทรดที่แท้จริงได้ชัดเจนกว่า สามารถคำนวณจุดคุ้มทุนและคาดการณ์ผลกำไรได้แม่นยำมากขึ้น

5. การดำเนินการคำสั่งซื้อขายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

บัญชี Raw Spread มักจะมีการดำเนินการคำสั่งซื้อขายที่เร็วกว่าและมีอัตราการปฏิเสธคำสั่ง (Rejection Rate) ที่ต่ำกว่า เนื่องจากเชื่อมต่อกับผู้ให้สภาพคล่องโดยตรง

เปิดบัญชีกับ Exness

ข้อเสียของบัญชี Raw Spread

1. ไม่เหมาะกับเทรดเดอร์ที่เทรดปริมาณน้อย

สำหรับผู้ที่เทรดล็อตขนาดเล็ก (Micro Lot) หรือเทรดไม่บ่อย ค่าคอมมิชชั่นคงที่อาจทำให้ต้นทุนรวมสูงกว่าบัญชีมาตรฐานที่ไม่มีค่าคอมมิชชั่น

2. ต้องมีเงินทุนเริ่มต้นสูงกว่า

บัญชี Raw Spread มักจะมีข้อกำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่สูงกว่าบัญชีมาตรฐาน โดยทั่วไปเริ่มต้นที่ $200-1,000 ขึ้นไป ทำให้อาจไม่เหมาะกับผู้เริ่มต้นที่มีเงินทุนจำกัด

3. โครงสร้างค่าธรรมเนียมที่ซับซ้อนกว่า

การคำนวณต้นทุนรวมที่ต้องรวมทั้งสเปรดและค่าคอมมิชชั่นอาจทำให้ยากต่อการติดตามและคำนวณต้นทุนรวมสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่

4. ไม่มีโบนัสหรือโปรโมชั่นมากนัก

บัญชี Raw Spread มักไม่ได้รับโบนัสหรือโปรโมชั่นมากเท่ากับบัญชีมาตรฐาน เนื่องจากเป็นบัญชีที่มีค่าธรรมเนียมต่ำอยู่แล้ว

เปรียบเทียบบัญชี Raw Spread กับบัญชีประเภทอื่น

บัญชี Raw Spread vs บัญชี Standard

คุณสมบัติ บัญชี Raw Spread บัญชี Standard
สเปรด 0-0.3 pips (ต่ำมาก) 1.5-3 pips
ค่าคอมมิชชั่น มี ($3-7 ต่อล็อตต่อรอบ) ไม่มี
เงินฝากขั้นต่ำ $200-1,000 $100-200
เหมาะกับ เทรดเดอร์มืออาชีพ, Scalpers ผู้เริ่มต้น, เทรดเดอร์ระยะยาว
การดำเนินการคำสั่ง เร็วกว่า, ไม่มี Requote อาจช้ากว่า, อาจมี Requote

บัญชี Raw Spread vs บัญชี ECN

คุณสมบัติ บัญชี Raw Spread บัญชี ECN
การเชื่อมต่อ ผู้ให้สภาพคล่องโดยตรง ตลาดระหว่างธนาคาร
สเปรด 0-0.3 pips 0-0.3 pips
ค่าคอมมิชชั่น $3-7 ต่อล็อต $5-10 ต่อล็อต (อาจสูงกว่า)
เงินฝากขั้นต่ำ $200-1,000 $1,000-5,000
การดำเนินการคำสั่ง รวดเร็ว รวดเร็วที่สุด
ความโปร่งใส สูง สูงที่สุด

บัญชี Raw Spread vs บัญชี Zero

คุณสมบัติ บัญชี Raw Spread บัญชี Zero
สเปรด 0-0.3 pips (คงที่กว่า) 0 pips (สำหรับบางคู่เงิน)
ค่าคอมมิชชั่น $3-7 ต่อล็อต $2-5 ต่อล็อต (อาจต่ำกว่า)
เครื่องมือการซื้อขาย หลากหลาย อาจจำกัดกว่า
เสถียรภาพของสเปรด คงที่กว่า อาจผันผวนในช่วงข่าว
ความยืดหยุ่น สูง ปานกลาง

เปิดบัญชีกับ Exness

ตัวอย่างการคำนวณต้นทุนในบัญชี Raw Spread

เพื่อให้เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น มาดูตัวอย่างการคำนวณต้นทุนการเทรดในบัญชี Raw Spread เทียบกับบัญชี Standard:

สมมติว่า:

  • บัญชี Raw Spread: สเปรด 0.1 pips + ค่าคอมมิชชั่น $5 ต่อล็อตต่อรอบ
  • บัญชี Standard: สเปรด 1.8 pips + ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
  • เทรดคู่เงิน EUR/USD, 1 pip = $10 ต่อล็อต

การเทรด 0.1 ล็อต (1 รอบ):

  • บัญชี Raw Spread: (0.1 pips × $10 × 0.1 ล็อต) + ($5 × 0.1 ล็อต) = $0.1 + $0.5 = $0.6
  • บัญชี Standard: 1.8 pips × $10 × 0.1 ล็อต = $1.8

การเทรด 1 ล็อต (1 รอบ):

  • บัญชี Raw Spread: (0.1 pips × $10 × 1 ล็อต) + ($5 × 1 ล็อต) = $1 + $5 = $6
  • บัญชี Standard: 1.8 pips × $10 × 1 ล็อต = $18

การเทรด 10 ล็อต (1 รอบ):

  • บัญชี Raw Spread: (0.1 pips × $10 × 10 ล็อต) + ($5 × 10 ล็อต) = $10 + $50 = $60
  • บัญชี Standard: 1.8 pips × $10 × 10 ล็อต = $180

จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า:

  • บัญชี Raw Spread มีต้นทุนต่ำกว่าบัญชี Standard ในทุกขนาดการเทรด
  • ยิ่งเทรดขนาดใหญ่ ความแตกต่างของต้นทุนยิ่งมากขึ้น
  • สำหรับการเทรด 10 ล็อต บัญชี Raw Spread ประหยัดได้ถึง $120 ต่อรอบการซื้อขาย

เปิดบัญชีกับ Exness

โบรกเกอร์ยอดนิยมที่ให้บริการบัญชี Raw Spread

โบรกเกอร์หลายรายให้บริการบัญชี Raw Spread โดยมีเงื่อนไขและโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน ต่อไปนี้คือโบรกเกอร์ยอดนิยมบางส่วน:

1. Exness

exness
exness
  • สเปรด: เริ่มต้นที่ 0 pips
  • ค่าคอมมิชชั่น: $3.5 ต่อล็อตต่อด้าน ($7 ต่อรอบการเทรด)
  • เงินฝากขั้นต่ำ: $200
  • เลเวอเรจสูงสุด: 1:ไม่จำกัด (ขึ้นอยู่กับภูมิภาค)
  • แพลตฟอร์ม: รองรับทั้ง MT4 และ MT5
  • จุดเด่น: เลเวอเรจไม่จำกัด, ถอนเงินรวดเร็ว

2. IC Markets

IC Markets
IC Markets
  • สเปรด: เริ่มต้นที่ 0.0 pips
  • ค่าคอมมิชชั่น: $3.5 ต่อล็อตต่อด้าน ($7 ต่อรอบการเทรด)
  • เงินฝากขั้นต่ำ: $200
  • เลเวอเรจสูงสุด: 1:500
  • แพลตฟอร์ม: รองรับทั้ง MT4, MT5 และ cTrader
  • จุดเด่น: สภาพคล่องสูง, เหมาะกับ Scalping

3. Pepperstone

pepperstone
pepperstone
  • สเปรด: เริ่มต้นที่ 0.0 pips
  • ค่าคอมมิชชั่น: $3.5 ต่อล็อตต่อด้าน ($7 ต่อรอบการเทรด)
  • เงินฝากขั้นต่ำ: $200
  • เลเวอเรจสูงสุด: 1:500
  • แพลตฟอร์ม: รองรับทั้ง MT4, MT5 และ cTrader
  • จุดเด่น: การดำเนินการคำสั่งรวดเร็ว, บริการลูกค้าดีเยี่ยม

4. XM

XM
XM
  • สเปรด: เริ่มต้นที่ 0.0 pips
  • ค่าคอมมิชชั่น: $5 ต่อล็อตต่อรอบการเทรด
  • เงินฝากขั้นต่ำ: $100
  • เลเวอเรจสูงสุด: 1:1000
  • แพลตฟอร์ม: รองรับทั้ง MT4 และ MT5
  • จุดเด่น: มีบริการภาษาไทย, เลเวอเรจสูง

เปิดบัญชีกับ Exness

บัญชี Raw Spread เหมาะกับใคร?

เหมาะสำหรับ:

  1. Scalpers และ Day Traders: ผู้ที่ทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อยและเทรดหลายครั้งต่อวัน
  2. เทรดเดอร์ที่ใช้ระบบอัตโนมัติ (EA): ระบบที่ซื้อขายความถี่สูงจะได้ประโยชน์จากต้นทุนต่อครั้งที่ต่ำกว่า
  3. เทรดเดอร์มืออาชีพ: ผู้ที่มีประสบการณ์และเข้าใจโครงสร้างต้นทุนการเทรดเป็นอย่างดี
  4. ผู้ที่เทรดปริมาณมาก: ยิ่งเทรดปริมาณมาก ยิ่งได้ประโยชน์จากสเปรดที่ต่ำกว่า
  5. เทรดเดอร์ที่ต้องการความโปร่งใส: ผู้ที่ต้องการเห็นต้นทุนการเทรดที่แท้จริงแยกออกมาชัดเจน

ไม่เหมาะสำหรับ:

  1. ผู้เริ่มต้นที่มีเงินทุนจำกัด: เนื่องจากมักมีข้อกำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่สูงกว่า
  2. เทรดเดอร์ที่เทรดไม่บ่อย: หากคุณเทรดเพียงไม่กี่ครั้งต่อเดือน ค่าคอมมิชชั่นอาจทำให้ต้นทุนรวมสูงกว่า
  3. Position Traders: ผู้ที่ถือครองตำแหน่งเป็นสัปดาห์หรือเดือนอาจไม่ได้ประโยชน์มากนักจากสเปรดที่ต่ำ
  4. ผู้ที่ไม่ต้องการความซับซ้อน: การคำนวณต้นทุนรวมอาจซับซ้อนกว่าสำหรับผู้ที่ต้องการความเรียบง่าย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับบัญชี Raw Spread

บัญชี Raw Spread คืออะไร?

บัญชี Raw Spread คือบัญชีเทรด Forex ที่มีสเปรดดิบโดยตรงจากผู้ให้สภาพคล่อง โดยไม่มีการบวกเพิ่มของโบรกเกอร์ แต่จะมีค่าคอมมิชชั่นแยกต่างหากสำหรับทุกการซื้อขาย

บัญชี Raw Spread แตกต่างจากบัญชี ECN อย่างไร?

บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เชื่อมต่อเทรดเดอร์โดยตรงกับผู้ให้สภาพคล่องหลายราย ทำให้เห็นอุปสงค์และอุปทานที่แท้จริงในตลาด ในขณะที่บัญชี Raw Spread อาจไม่ได้เชื่อมต่อกับ ECN เต็มรูปแบบ แต่ให้สเปรดที่ไม่มีการบวกเพิ่มจากโบรกเกอร์ บัญชี ECN มักจะมีข้อกำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่สูงกว่าและค่าคอมมิชชั่นที่สูงกว่า

คำนวณจุดคุ้มทุนระหว่างบัญชี Raw Spread กับบัญชี Standard อย่างไร?

เพื่อคำนวณจุดคุ้มทุน ใช้สูตร:

ขนาดล็อตที่จุดคุ้มทุน = ค่าคอมมิชชั่นต่อล็อต / [(สเปรด Standard - สเปรด Raw) × มูลค่าต่อ pip]

หากปริมาณการเทรดของคุณสูงกว่าจุดคุ้มทุนนี้ บัญชี Raw Spread จะคุ้มค่ากว่า

บัญชี Raw Spread มีข้อดีในช่วงประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัญหรือไม่?

ใช่ แม้ว่าทุกประเภทบัญชีจะมีความผันผวนของสเปรดในช่วงข่าวสำคัญ แต่บัญชี Raw Spread มักจะมีการขยายตัวของสเปรดที่น้อยกว่าและคาดการณ์ได้มากกว่า เนื่องจากเป็นสเปรดที่มาจากผู้ให้สภาพคล่องโดยตรง

โบรกเกอร์ทำกำไรจากบัญชี Raw Spread อย่างไร?

โบรกเกอร์ทำกำไรหลักจากค่าคอมมิชชั่นที่เรียกเก็บจากทุกการซื้อขาย แทนที่จะเป็นการบวกเพิ่มในสเปรด วิธีนี้ทำให้รายได้ของโบรกเกอร์มีความสอดคล้องกับปริมาณการซื้อขายมากกว่าทิศทางของตลาด ซึ่งสร้างความสมดุลของผลประโยชน์ระหว่างโบรกเกอร์และลูกค้า

เปิดบัญชีกับ Exness

สเปรดดิบ (Raw Spread) ต่างจากสเปรดทั่วไปอย่างไร?

สเปรดดิบเป็นสเปรดที่มาจากผู้ให้สภาพคล่องโดยตรงโดยไม่มีการบวกเพิ่ม ในขณะที่สเปรดทั่วไปในบัญชีมาตรฐานจะรวมค่าธรรมเนียมของโบรกเกอร์ไว้ในสเปรดแล้ว ทำให้สเปรดดิบแคบกว่าและสะท้อนสภาพตลาดที่แท้จริงมากกว่า

บัญชี Raw Spread จำเป็นต้องมีเงินฝากขั้นต่ำเท่าไร?

เงินฝากขั้นต่ำสำหรับบัญชี Raw Spread แตกต่างกันไปตามโบรกเกอร์ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ $200-1,000 โบรกเกอร์บางรายเช่น Exness อาจเริ่มต้นที่ $200 ในขณะที่บางรายอาจต้องการมากถึง $1,000

จะตรวจสอบคุณภาพการดำเนินการคำสั่งซื้อขายในบัญชี Raw Spread ได้อย่างไร?

คุณสามารถตรวจสอบคุณภาพได้ด้วยวิธีต่อไปนี้:

  1. ทดสอบความเร็วในการดำเนินการคำสั่งซื้อขายโดยใช้บัญชีทดลอง
  2. ตรวจสอบ Slippage (การลื่นไถลของราคา) โดยเฉพาะในช่วงที่มีข่าวสำคัญ
  3. ตรวจสอบความถี่ของการ Requote (การให้ราคาใหม่)
  4. เปรียบเทียบราคาที่ได้รับกับราคาตลาดที่เผยแพร่จากแหล่งอื่น

บัญชี Raw Spread เหมาะกับเทรดเดอร์มือใหม่หรือไม่?

โดยทั่วไปแล้ว บัญชี Raw Spread ไม่เหมาะกับเทรดเดอร์มือใหม่ที่มีประสบการณ์น้อย เนื่องจากโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่ซับซ้อนกว่าและข้อกำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่สูงกว่า มือใหม่ควรเริ่มต้นด้วยบัญชีมาตรฐานหรือบัญชี Cent ก่อน แล้วค่อยพิจารณาเปลี่ยนไปใช้บัญชี Raw Spread เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น

บัญชี Raw Spread กับการเทรดด้วย EA (Expert Advisor) เข้ากันหรือไม่?

บัญชี Raw Spread เข้ากันได้อย่างดีกับการเทรดด้วย EA โดยเฉพาะระบบที่เทรดความถี่สูงหรือ Scalping เนื่องจากสเปรดที่ต่ำและการดำเนินการคำสั่งที่รวดเร็วช่วยให้ EA ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

เปิดบัญชีกับ Exness

สรุป

บัญชี Raw Spread เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง ต้นทุนต่ำ และความโปร่งใสในการเทรด ด้วยสเปรดที่แคบเป็นพิเศษและค่าคอมมิชชั่นคงที่ บัญชีประเภทนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับกลยุทธ์การเทรดแบบ Scalping, Day Trading และการใช้ระบบอัตโนมัติ

ข้อดีหลักของบัญชี Raw Spread ได้แก่:

  • สเปรดต่ำกว่าและคงที่มากกว่า
  • ต้นทุนรวมต่ำสำหรับการเทรดปริมาณมาก
  • ความโปร่งใสในโครงสร้างค่าธรรมเนียม
  • การดำเนินการคำสั่งซื้อขายที่มีประสิทธิภาพสูง

อย่างไรก็ตาม บัญชี Raw Spread อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน ผู้เริ่มต้นที่มีเงินทุนจำกัดหรือเทรดเดอร์ที่เทรดไม่บ่อยอาจพบว่าบัญชีมาตรฐานมีความคุ้มค่ามากกว่า

ในการตัดสินใจเลือกประเภทบัญชี คุณควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น:

  • กลยุทธ์การเทรดของคุณ
  • ปริมาณและความถี่ในการเทรด
  • เงินทุนที่มี
  • ระดับประสบการณ์
  • ความต้องการด้านการดำเนินการคำสั่งซื้อขาย

การเลือกโบรกเกอร์ที่ให้บริการบัญชี Raw Spread ที่เหมาะสมก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น สเปรดเฉลี่ย ค่าคอมมิชชั่น การกำกับดูแล และคุณภาพการดำเนินการคำสั่งซื้อขาย

ท้ายที่สุด บัญชี Raw Spread เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการยกระดับประสิทธิภาพการเทรดและลดต้นทุนในระยะยาว หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และเทรดปริมาณมาก บัญชีประเภทนี้อาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับคุณ

เปิดบัญชีกับ Exness

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

Dojipedia removebg preview

Dojipedia เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับข้อมูลการลงทุนเกี่ยวกับตลาด Forex มีประสบการณ์การลงทุนในตลาด Forex มา 5 ปี ภายหลังจากที่ศึกษาการวิเคราะห์ทางเทคนิค และได้สนใจทั้ง Elliott Wave, ICT Trading, Smart Money Concept และวิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ จนชำนาญ พบว่า ความรู้ที่ตัวเองศึกษาได้ผล จึงสร้างเว็บขึ้นมาเพื่อเผยแพร่ความรู้ เรามีแผนการเขียนหนังสือ การวิเคราะห์ทางเทคนิค เพื่อแจกฟรี สามารถหาโหลดได้โดยไม่มีวัตถุประสงค์ทางการค้า

ความชำนาญ

  • การเลือกโบรกเกอร์ Forex
  • Inner Circle Trader
  • Smart Money Concept
  • Elliott Wave
  • Tradingview Technical Analysis

ผลงาน