โบรกเกอร์ HFM ดีไหม? รีวิวเจาะลึกข้อดีข้อเสียปี 2025

เมื่อพูดถึงการลงทุนในตลาด Forex หนึ่งในชื่อโบรกเกอร์ที่มักถูกกล่าวถึงบ่อยๆ ในกระทู้พันทิปคือ “HFM” (เดิมรู้จักในชื่อ HotForex) หลายคนสงสัยว่า โบรกเกอร์ HFM ดีไหม? มีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด และเหมาะกับการลงทุนในปี 2025 หรือไม่

บทความนี้จะรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโบรกเกอร์ HFM พร้อมวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียจากประสบการณ์ของผู้ใช้งานจริงในพันทิป เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าควรเลือกใช้บริการหรือไม่

สารบัญ

• HFM คืออะไร?
• ความน่าเชื่อถือของ HFM
• ข้อดีของโบรกเกอร์ HFM
• ข้อเสียของโบรกเกอร์ HFM
• ประเภทบัญชีของ HFM
• ค่าธรรมเนียมในการเทรด HFM
• การฝากและถอนเงินกับ HFM
• โบนัสและโปรโมชั่นของ HFM
• ความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริงใน Pantip
• เปรียบเทียบ HFM กับโบรกเกอร์อื่น
• สรุป: HFM เหมาะกับใคร?
• คำถามที่พบบ่อย

HFM คืออะไร?

HFM (HF Markets) เป็นโบรกเกอร์ระดับโลกที่ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์หลากหลายประเภท ไม่เพียงแค่ Forex แต่ยังรวมถึงการเทรดหุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, คริปโตเคอเรนซี และอื่นๆ โบรกเกอร์นี้เดิมเป็นที่รู้จักในชื่อ HotForex และได้ทำการรีแบรนด์เป็น HFM ในปี 2023 เพื่อสะท้อนถึงการขยายขอบเขตบริการที่กว้างขึ้นนอกเหนือจาก Forex

HFM ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศไซปรัส ปัจจุบันมีสำนักงานในหลายประเทศทั่วโลก และเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการกับทีมฟุตบอล Paris Saint-Germain (PSG) ในปี 2020-2022 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงฐานะทางการเงินที่มั่นคงและการเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

ความน่าเชื่อถือของ HFM

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดในการเลือกโบรกเกอร์คือความน่าเชื่อถือ และนี่คือเหตุผลที่ HFM ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนทั่วโลก

ใบอนุญาตที่ได้รับการกำกับดูแล

HFM ได้รับการควบคุมโดยหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินชั้นนำหลายแห่ง ได้แก่:

• Financial Conduct Authority (FCA) – สหราชอาณาจักร (ใบอนุญาตเลขที่ 801701)
• Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC) – ไซปรัส (ใบอนุญาตเลขที่ 183/12)
• Dubai Financial Services Authority (DFSA) – สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ใบอนุญาตเลขที่ F004885)
• Financial Sector Conduct Authority (FSCA) – แอฟริกาใต้ (ใบอนุญาตเลขที่ 46632)
• Financial Services Authority (FSA) – เซเชลส์ (ใบอนุญาตเลขที่ SD015)
• Financial Services Authority Saint Vincent & The Grenadines (SVGFSA) – เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ (ใบอนุญาตเลขที่ 22747)
• Capital Markets Authority (CMA) – เคนยา (ใบอนุญาตเลขที่ 155)

การได้รับใบอนุญาตจาก FCA ถือเป็นจุดเด่นสำคัญเนื่องจากเป็นหน่วยงานกำกับดูแลที่มีความเข้มงวดและได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำของโลก

ความปลอดภัยของเงินทุน

HFM ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเงินทุนลูกค้าด้วยมาตรการหลายอย่าง:

• การแยกบัญชีลูกค้า: เงินของลูกค้าถูกเก็บแยกจากเงินทุนของบริษัท ซึ่งหมายความว่าเงินของคุณจะไม่ถูกนำไปใช้เพื่อการดำเนินงานของบริษัท
• การประกันความรับผิดทางแพ่ง: มีการทำประกันภัยที่คุ้มครองข้อผิดพลาดต่างๆ ที่อาจนำไปสู่ความสูญเสียทางการเงิน ด้วยจำนวนเงินถึง 5,000,000 ยูโร

ประวัติการดำเนินงาน

HFM ให้บริการมากว่า 13 ปี โดยไม่มีข่าวเสียหายร้ายแรง และได้รับรางวัลมากกว่า 60 รางวัลในอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความน่าเชื่อถือและคุณภาพของบริการ

จากข้อมูลบน Google Play พบว่าแอปพลิเคชัน HFM ได้รับคะแนนรีวิว 3.5 ดาวจากผู้รีวิวกว่า 6,000 คน และมียอดดาวน์โหลดมากกว่า 1 ล้านครั้ง แสดงให้เห็นถึงฐานผู้ใช้งานที่มีขนาดใหญ่

ข้อดีของโบรกเกอร์ HFM

จากการรวบรวมความคิดเห็นของผู้ใช้งานในพันทิปและเว็บไซต์รีวิวต่างๆ พบว่า HFM มีข้อดีหลายประการ:

1. โบนัสเงินฟรี $35: สำหรับลูกค้าใหม่โดยไม่ต้องฝากเงิน และสามารถถอนกำไรที่ได้จากการเทรดด้วยโบนัสนี้ได้ (มากกว่า XM ที่ให้ $30)
2. ความน่าเชื่อถือสูง: ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานชั้นนำหลายแห่ง โดยเฉพาะ FCA ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลที่มีมาตรฐานสูง
3. สินทรัพย์ให้เทรดหลากหลาย: มีผลิตภัณฑ์การเทรดมากกว่า 1,200 รายการ ครอบคลุมทั้ง:
   • Forex: มากกว่า 60 คู่สกุลเงิน
   • หุ้น: มากกว่า 2,000 หุ้นจากทั่วโลก (หุ้นจริง ไม่ใช่แค่ CFD)
   • ดัชนี: กว่า 23 ดัชนีทั่วโลก
   • คริปโตเคอเรนซี: Bitcoin, Ethereum และอื่นๆ
   • โลหะมีค่า: ทองคำ, เงิน
   • สินค้าโภคภัณฑ์: น้ำมัน, กาแฟ, น้ำตาล, โกโก้, ทองแดง
   • ETF: กว่า 34 กองทุน
   • พันธบัตร
4. ระบบ Copy Trading: มีระบบ HFcopy ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถลอกเลียนการเทรดของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้
5. เลเวอเรจสูง: ให้เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:2000 ในบางประเภทบัญชี
6. บริการลูกค้าภาษาไทย: มีทีม Support ที่พูดภาษาไทยคอยให้บริการผ่าน Live Chat ในช่วงเวลา 7.00 – 23.00 น. วันจันทร์ถึงวันศุกร์
7. การฝากถอนรวดเร็ว: ระบบฝากถอนเงินผ่านธนาคารไทยได้อย่างรวดเร็ว ฝากเงินเข้าทันที ถอนเงินใช้เวลาเพียง 5 นาทีถึง 1 วัน
8. ไม่มีค่า Swap ในหลายสินทรัพย์: บัญชีบางประเภทไม่มีค่า Swap สำหรับคู่สกุลเงินหลัก ทองคำ และน้ำมัน
9. แพลตฟอร์มหลากหลาย: รองรับทั้ง MT4, MT5 และมีแอป HFM สำหรับเทรดบนมือถือโดยเฉพาะ
10. มีบริการ VPS ฟรี: สำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีด้วยยอด $5,000 ขึ้นไป

ข้อเสียของโบรกเกอร์ HFM

แม้ HFM จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อเสียที่ควรพิจารณาเช่นกัน:

1. ค่า Spread สูงกว่าบางโบรกเกอร์: ค่า Spread ของ HFM อยู่ในระดับกลางๆ เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่น โดยเฉพาะในบัญชีประเภท Standard โดยมีค่า Spread EURUSD เฉลี่ย 17.6 Point / 1 Lot (1.76 pips)
2. ปัญหาเรื่อง Margin และ Spread กระโดด: มีรายงานจากผู้ใช้บางรายในพันทิปว่าพบปัญหา Margin เพิ่มขึ้นโดยไม่ทราบล่วงหน้าในช่วงที่ Spread กระโดด
   

   “เทรดกับ Broke HFM เจอปัญหาเรื่อง Margin เพิ่มแบบไม่รู้ตัวกันบ้างมั้ย? ใครเจอเมื่อ Trade กับ HFM ขณะ spread Margin กระโดดมาก เหมือนไม่ได้ Spread แต่เปิดฝั่งเดิมเพิ่มแท”

3. ขั้นตอนการถอนเงินยุ่งยาก: ต้องกรอกชื่อ-นามสกุล และชื่อสาขาธนาคารเป็นภาษาอังกฤษในการถอนเงิน ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับภาษาอังกฤษ
4. ประเภทบัญชีมีหลายแบบ: มีประเภทบัญชีให้เลือกมากกว่า 5 แบบ ทำให้ผู้ใช้อาจสับสนในการเลือกบัญชีที่เหมาะสม
5. เว็บไซต์ภาษาไทยยังไม่สมบูรณ์: บางส่วนของเว็บไซต์ยังไม่ได้แปลเป็นภาษาไทยอย่างสมบูรณ์
6. ไม่มีระบบ Line Official: ไม่มีช่องทางติดต่อผ่าน Line ซึ่งเป็นช่องทางที่คนไทยนิยมใช้

ประเภทบัญชีของ HFM

HFM มีประเภทบัญชีหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. บัญชี CENT

• เหมาะสำหรับ: นักลงทุนมือใหม่ที่มีทุนน้อย
• จุดเด่น: ใช้หน่วยเงิน Cent ในการเทรด (1 USD = 100 USC)
• เลเวอเรจสูงสุด: 1:2000
• Spread เริ่มต้น: 1.2 pips
• เงินฝากขั้นต่ำ: $0
• ขนาดสัญญา: 1 Lot = 1,000 หน่วย

2. บัญชี CRYPTO CFD

• เหมาะสำหรับ: ผู้ที่สนใจเทรดคริปโตเคอร์เรนซี
• จุดเด่น: เน้นการซื้อขายสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) ของคริปโตเคอร์เรนซี
• เลเวอเรจสูงสุด: 1:20
• Spread: แตกต่างกันไปตามคู่เหรียญ
• เงินฝากขั้นต่ำ: $0
• ขนาดสัญญา: 1 Lot ขึ้นอยู่กับประเภทคริปโต

3. บัญชี PREMIUM

• เหมาะสำหรับ: นักลงทุนทั่วไป
• จุดเด่น: ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
• เลเวอเรจสูงสุด: 1:2000
• Spread เริ่มต้น: 1.2 pips
• เงินฝากขั้นต่ำ: $0
• ขนาดสัญญา: 1 Lot = 100,000 หน่วย

4. บัญชี PRO

• เหมาะสำหรับ: นักเทรดที่มีประสบการณ์
• จุดเด่น: Spread ต่ำกว่าบัญชี Premium
• เลเวอเรจสูงสุด: 1:2000
• Spread เริ่มต้น: 0.5 pips
• เงินฝากขั้นต่ำ: $100
• ขนาดสัญญา: 1 Lot = 100,000 หน่วย

5. บัญชี ZERO

• เหมาะสำหรับ: นักเทรดที่ต้องการ Spread ต่ำสุด
• จุดเด่น: Spread เริ่มต้นที่ 0 pips แต่มีค่าคอมมิชชั่น
• เลเวอเรจสูงสุด: 1:2000
• ค่าคอมมิชชั่น: $6 ต่อ Lot สำหรับ Forex, $14 ต่อ Lot สำหรับทองคำ
• เงินฝากขั้นต่ำ: $0
• ขนาดสัญญา: 1 Lot = 100,000 หน่วย

6. บัญชีโบนัสเงินฝาก (TOP-UP BONUS)

• เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรับโบนัสทุกครั้งที่ฝากเงิน
• จุดเด่น: โบนัส 100% สำหรับการฝากครั้งแรก, 50% สำหรับการฝากครั้งต่อไป
• เลเวอเรจสูงสุด: 1:1000
• Spread เริ่มต้น: 1.4 pips
• เงินฝากขั้นต่ำ: $0
• ขนาดสัญญา: 1 Lot = 100,000 หน่วย

นอกจากนี้ HFM ยังมีบัญชี HFCOPY สำหรับการใช้งานระบบ Copy Trading ด้วย ซึ่งช่วยให้คุณสามารถลอกเลียนการเทรดของเทรดเดอร์ที่มีผลงานดีได้

ค่าธรรมเนียมในการเทรด HFM

ค่า Spread

ค่า Spread ของ HFM แตกต่างกันไปตามประเภทบัญชี โดยบัญชี ZERO มีค่า Spread ต่ำที่สุด แต่จะมีค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเติม ในขณะที่บัญชี PREMIUM จะไม่มีค่าคอมมิชชั่นแต่มีค่า Spread ที่กว้างกว่า

ตัวอย่างค่า Spread ในบัญชี Premium:

• EURUSD: 17.6 Point / 1 Lot
• USDJPY: 24.0 Point / 1 Lot
• GBPUSD: 20.0 Point / 1 Lot
• XAUUSD (ทองคำ): 34 USD / 1 Lot
• BTCUSD (Bitcoin): 0.05762% ของราคา

ค่าคอมมิชชั่น

เฉพาะบัญชี ZERO เท่านั้นที่มีค่าคอมมิชชั่น ดังนี้:

• คู่สกุลเงินทั้งหมด: $6 ต่อ Lot
• ทองคำ: $14 ต่อ Lot

ค่า Swap

HFM ไม่มีค่า Swap ในสินทรัพย์บางประเภท ได้แก่: AUDNZD, AUDUSD, EURCHF, EURUSD, GBPJPY, GBPUSD, NZDUSD, USDCAD, USDCHF, USDJPY, USOIL, AUDCHF, AUDJPY, EURAUD, EURCAD, EURGBP, EURJPY, EURNZD, GBPCHF, GBPNZD, NZDJPY, NZDCAD, XAUUSD, UKOIL

นอกจากนี้ ยังมีบัญชี Zero Swap (Islamic Account) สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเสียค่า Swap โดยเฉพาะ

ค่าธรรมเนียมฝากถอน

• ค่าธรรมเนียมฝากเงิน: ไม่มี
• ค่าธรรมเนียมถอนเงิน: ไม่มี

อย่างไรก็ตาม จากการทดสอบเรทการฝากถอนพบว่า ถ้าฝากเงิน 4,000 บาท (คิดเป็น 102.81 USD) และถอนออกมาจะได้ 3,908 บาท ซึ่งน้อยกว่าประมาณ 92 บาท (คิดเป็น -2.3%)

การฝากและถอนเงินกับ HFM

ช่องทางการฝากเงิน

HFM รองรับหลากหลายช่องทางในการฝากเงิน:

1. ธนาคารไทย: รองรับการฝากผ่าน QR Code และ Internet Banking ทุกธนาคารในไทย
2. บัตรเครดิต/เดบิต: VISA เท่านั้น
3. E-Wallet: Neteller, Skrill, FasaPay, WebMoney
4. คริปโตเคอเรนซี: Bitcoin, Ethereum, Litecoin, Cardano, USDC, USDT และอื่นๆ

ช่องทางการถอนเงิน

1. ธนาคารไทย: รองรับทุกธนาคารในประเทศไทย
2. E-Wallet: Neteller, Skrill, FasaPay, WebMoney
3. คริปโตเคอเรนซี: ผ่านระบบ Bitpay

ความเร็วในการฝากถอน

• การฝากเงิน: เงินเข้าบัญชีทันทีหลังจากชำระเงิน โดยเฉพาะเมื่อฝากผ่าน QR Code
• การถอนเงิน: มีรายงานว่าการถอนเงินใช้เวลาตั้งแต่ 5 นาทีไปจนถึง 1 วันทำการ

จากประสบการณ์ของผู้ใช้ในพันทิป บางคนรายงานว่าสามารถถอนเงินได้ภายใน 5 นาที แต่บางคนก็ประสบปัญหาล่าช้า:

“แต่ถอนเงินช้ามาก HotForex ถอนตั้งแต่เมื่อคืนป่านนี้ยังไม่ได้เลย”

ขั้นตอนการถอนเงิน

เมื่อถอนเงิน ต้องระบุข้อมูลต่อไปนี้เป็นภาษาอังกฤษ:

1. ชื่อ-นามสกุล
2. ชื่อสาขาธนาคาร
3. เลขบัญชีธนาคาร
4. เหตุผลในการถอนเงิน

โบนัสและโปรโมชั่นของ HFM

HFM มีโบนัสและโปรโมชั่นที่น่าสนใจหลายรายการ

1. โบนัสเงินฟรี $35: สำหรับลูกค้าใหม่โดยไม่ต้องฝากเงิน สามารถถอนกำไรที่ได้จากการเทรดด้วยโบนัสนี้ได้
2. โบนัสเงินฝาก 100%: สำหรับการฝากครั้งแรก สูงสุด 3,600 บาท และ 20% สำหรับการฝากครั้งถัดไป ไม่จำกัดจำนวนครั้ง รวมกันสูงสุด 180,000 บาท
3. ผลตอบแทนจากมาร์จินคงเหลือ: รับผลตอบแทนสูงสุด 3% จากมาร์จินคงเหลือในบัญชี
4. Loyalty Program: เทรดเพื่อสะสม HFM Bars ซึ่งสามารถแลกเป็นเงินสด, AUTOCHARTIST ฟรี, VPS ฟรี, หรือการคุยส่วนตัวกับนักวิเคราะห์ตลาดของ HFM
5. TRADERS AWARDS: แข่งขันเทรดบัญชีจริงเพื่อรับเงินรางวัล $2,000 ทุกเดือน
6. DEMO CONTEST: แข่งขันเทรดบัญชีทดลองเพื่อรับเงินรางวัลรวม $3,500 ทุกเดือน

อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้บางรายในพันทิปแนะนำให้ระวังเรื่องเงื่อนไขของโบนัส:

“อย่าเลือกตัวเลือกโบนัสเยอะนะครับ โอกาสถอนโบนัสออกเป็นตัวเงินยากมากๆๆ เงื่อนไขมันเวอร์ ให้เลือก 15% rescue แทนมีโอกาสได้ใช้ประโยชน์จริงมากกว่า”

ความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริงใน Pantip

จากการรวบรวมความคิดเห็นในกระทู้พันทิปเกี่ยวกับ HFM พบว่ามีทั้งความเห็นด้านบวกและลบ

ความคิดเห็นด้านบวก

1. เรื่องความน่าเชื่อถือ:
   

   “ปัจจุบันปี 2566 โบรกเกอร์ Hotforex ได้เปลี่ยนชื่อเป็น HFM แล้วนะคะ HFM เชื่อถือได้ โบรกฯ เปิดมานานกว่า 13 ปี และยังเป็นพันธมิตรกับทีมฟุตบอล PSG ทีมฟุตบอลระดับโลก และอันดับ 1 ในฝรั่งเศส ที่มีเมสซี่ และเนย์มาร์ อยู่ในทีมด้วยนะคะ”

2. เรื่องการฝากถอน:
   

   “ฝากถอนเงิน รวดเร็ว ผ่านระบบธนาคารออนไลน์ของไทย ลูกค้าใหม่ ตอนนี้มีเงินโบนัสฟรี 35 USD ถอนกำไรได้ไม่จำกัด ไม่ต้องฝากเงินก่อน”

3. เรื่องความปลอดภัย:
   

   “ไม่โกงครับ เคยฝากหลักหมื่นเหรียญ”

ความคิดเห็นด้านลบ

1. ปัญหาเรื่อง Margin:
   

   “หลอกลวง เวลาคุณเทรด ระวังนะคะ ว่า Margin ขณะ spread กระโดดขึ้นแบบไม่รู้ตัว เจอมาหลายรอบแล้วค่ะ 555 อย่าไปใช้ broke นี้ เด็ดขาด ไม่รู้มีอะไรหมกเม็ดอีกมั้ย ของเตือน มีหลักฐานชัดเจน ไม่ได้ปลักปลำ”

2. ปัญหาการถอนเงิน:
   

   “แต่ถอนเงินช้ามาก HotForex ถอนตั้งแต่เมื่อคืนป่านนี้ยังไม่ได้เลย”

3. ปัญหาในการฝากเงิน:
   

   “สอบถามวิธีฝาก-ถอน โบรค hotforex ครับ… พอดีผมใช้บัตรเดบิตของกสิกร ไม่ได้ บัตรบีเฟิสก็ไม่ได้ neteller ก็ฝากเข้าไม่ได้ ผม งง และไม่รู้จะฝากเข้าทางไหน local deposit ผมกด subscribe ก็รอมาแล้ว2อาทิตย์ ไม่มีอีเมล์ตอบกลับมาหาผม”

เปรียบเทียบ HFM กับโบรกเกอร์อื่น

ในกระทู้พันทิป มีการเปรียบเทียบ HFM กับโบรกเกอร์อื่นๆ ที่คนไทยนิยมใช้ เช่น XM, Exness และ IUX:

HFM vs XM

ในกระทู้ “Xm กับ HFM อันไหนดีกว่ากัน 2025” มีผู้แสดงความคิดเห็นว่า:

“ถ้าให้เลือกสองโบรคนี้ผมชอบ XM มากกว่าครับ มีโบนัสฟรีให้ด้วย”

แต่ก็มีผู้ใช้อีกรายตอบกลับว่า:

“HFM ผมดูแล้วเค้าเน้นโบนัส แต่ถ้าเทรดเป็น โบนัสมันก็เอาเงินจาก spread กับ rebate มาจ่ายอ่ะครับ เทรดที่ spread ต่ำไปเลย กับต่อ IB ที่เค้าให้ค่า rebate มันก็ค่าเหมือนกัน ได้ลดราคาทันที ไม่ต้องรอให้กลับมาเป็นโบนัสทีหลัง”

HFM vs Exness

จากข้อมูลเปรียบเทียบจากเว็บไซต์รีวิวต่างๆ:

• ค่า Spread: Exness มีค่า Spread ต่ำกว่า HFM ในบัญชีประเภทเริ่มต้น
• การฝากถอน: ทั้งสองโบรกเกอร์มีระบบฝากถอนรวดเร็ว แต่ Exness อาจเร็วกว่าเล็กน้อย
• ความน่าเชื่อถือ: ทั้งคู่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ
• โบนัส: HFM มีโบนัสเงินฟรี $35 สำหรับลูกค้าใหม่ ในขณะที่ Exness ไม่มีโบนัสเงินฟรี

จุดเด่นของ HFM เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่น

• มีหุ้นจริงให้เทรดมากกว่า 2,000 หุ้นทั่วโลก (ไม่ใช่แค่ CFD เหมือนโบรกทั่วไป)
• มีระบบ Copy Trading ที่เรียกว่า HFcopy
• โบนัสเงินฟรี $35 ซึ่งมากกว่า XM ที่ให้ $30
• ได้รับการกำกับดูแลจาก FCA ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำ

สรุป: HFM เหมาะกับใคร?

จากข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมมา สามารถสรุปได้ว่า HFM เหมาะกับ:

เหมาะกับ

1. นักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือ: ด้วยการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำหลายแห่ง โดยเฉพาะ FCA
2. ผู้ที่ต้องการความหลากหลายของสินทรัพย์: มีสินทรัพย์ให้เทรดมากกว่า 1,200 รายการ รวมถึงหุ้นจริงกว่า 2,000 หุ้นทั่วโลก
3. ผู้ที่ต้องการใช้ระบบ Copy Trading: มีระบบ HFcopy ที่ช่วยให้คุณสามารถลอกเลียนการเทรดของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้
4. ผู้ที่ต้องการโบนัสเงินฟรี: มีโบนัสเงินฟรี $35 สำหรับลูกค้าใหม่
5. นักลงทุนที่ต้องการบริการลูกค้าภาษาไทย: มีทีม Support ที่พูดภาษาไทยคอยให้บริการ

ไม่เหมาะกับ

1. นักลงทุนที่ต้องการค่า Spread ต่ำที่สุด: มีโบรกเกอร์อื่นที่ให้ค่า Spread ต่ำกว่า HFM
2. ผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับภาษาอังกฤษ: การถอนเงินต้องกรอกข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ
3. ผู้ที่ชอบใช้ Line เป็นช่องทางการสื่อสาร: HFM ไม่มี Line Official
4. ผู้ที่ต้องการความเรียบง่ายในการเลือกบัญชี: มีประเภทบัญชีให้เลือกมากเกินไปอาจทำให้สับสน

คำถามที่พบบ่อย

1. HFM และ HotForex เป็นโบรกเกอร์เดียวกันหรือไม่?

ใช่ HFM คือชื่อใหม่ของ HotForex ที่ได้ทำการรีแบรนด์ในปี 2023 เพื่อสะท้อนถึงการขยายขอบเขตบริการที่กว้างขึ้นนอกเหนือจาก Forex

2. HFM มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน?

HFM มีความน่าเชื่อถือสูง เนื่องจากได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำหลายแห่ง โดยเฉพาะ FCA ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลที่มีมาตรฐานสูง อีกทั้งยังมีประวัติการดำเนินงานที่ยาวนานกว่า 13 ปีโดยไม่มีข่าวเสียหายร้ายแรง

3. HFM มีบัญชีประเภทไหนบ้าง?

HFM มี 5 ประเภทบัญชีหลัก ได้แก่ CENT, PREMIUM, PRO, ZERO และ TOP-UP BONUS นอกจากนี้ยังมีบัญชี HFCOPY สำหรับ Copy Trading

4. ฝากถอนเงินกับ HFM ได้เร็วแค่ไหน?

การฝากเงินเข้าบัญชี HFM จะเข้าทันทีหลังจากชำระเงิน โดยเฉพาะเมื่อฝากผ่าน QR Code ส่วนการถอนเงินมีรายงานว่าใช้เวลาตั้งแต่ 5 นาทีไปจนถึง 1 วันทำการ

5. HFM มีโบนัสอะไรบ้าง?

HFM มีโบนัสหลายรายการ เช่น โบนัสเงินฟรี $35 สำหรับลูกค้าใหม่, โบนัสเงินฝาก 100% สำหรับการฝากครั้งแรก, และโปรแกรม Loyalty ที่ให้คุณสะสมคะแนนเพื่อแลกของรางวัล

6. HFM มีค่า Spread เท่าไร?

ค่า Spread ของ HFM แตกต่างกันไปตามประเภทบัญชี โดยตัวอย่างค่า Spread ในบัญชี Premium สำหรับ EURUSD อยู่ที่ 17.6 Point / 1 Lot หรือประมาณ 1.76 pips

7. HFM เหมาะกับคนไทยหรือไม่?

HFM มีเว็บไซต์ภาษาไทยและทีม Support ที่พูดภาษาไทย รวมถึงรองรับการฝากถอนผ่านธนาคารไทยได้อย่างสะดวก แต่อาจมีข้อจำกัดเรื่องการต้องกรอกข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษเวลาถอนเงิน

การตัดสินใจเลือกใช้บริการโบรกเกอร์ HFM ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ให้รอบด้าน ทั้งความน่าเชื่อถือ, ค่าธรรมเนียม, ความเร็วในการฝากถอน, และความเหมาะสมกับรูปแบบการเทรดของคุณ ทั้งนี้ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงข้อมูลประกอบการตัดสินใจเท่านั้น คุณควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและเริ่มต้นด้วยบัญชีทดลองก่อนเสมอ

คำเตือน: การเทรด Forex และ CFD มีความเสี่ยงสูง คุณอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ กรุณาศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการลงทุน